‘อนุทิน’ หารือ ออท.ญี่ปุ่นขอผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบหาสาเหตุอาคาร สตง.ถล่ม สั่งโยธาฯ เร่งหาสาเหตุตามข้อสั่งการนายกฯ ชี้ต้องสร้างขวัญกำลังใจคนไทย-ต่างชาติว่าใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยจะต้องปลอดภัย
เมื่อวันที่ 1 เมษายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ให้การต้อนรับและหารือกับนายมาซาโตะ โอตากะ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำราชอาณาจักรไทย และคณะ ในโอกาสหารือการจัดการภัยแผ่นดินไหว โดยมี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้บริหารระดับสูง ร่วมหารือ
นายอนุทินกล่าวว่า นายมาซาโตะได้นำความห่วงใยของรัฐบาลญี่ปุ่นและประชาชนชาวญี่ปุ่น ซึ่งได้กล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว มายังพี่น้องประชาชนชาวไทย พร้อมทั้งสอบถามถึงความต้องการขอรับการสนับสนุนหรือความช่วยเหลือด้านบริหารจัดการสถานการณ์ภัยพิบัติ โดยตนได้กล่าวขอบคุณพร้อมทั้งหารือถึงการขอรับการสนับสนุนนักวิชาการ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างอาคารที่รองรับแผ่นดินไหว มาร่วมสนับสนุนคณะกรรมการที่กรมโยธาธิการและผังเมืองได้แต่งตั้งเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงกรณีอาคารที่ทำงาน สตง.แห่งใหม่ถล่ม รวมถึงการออกแบบและก่อสร้างอาคารสูงในกรุงเทพฯ และในประเทศไทย ซึ่งท่านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น มีความยินดีที่จะได้ประสานทีมผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่น เพื่อเป็น second opinion มาช่วยยืนยันให้มั่นใจเพิ่มมากขึ้น ทั้งด้านเทคนิค อาทิ หากเกิดแผ่นดินไหวลักษณะนี้ การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างมีการกำหนดปัจจัยด้านความปลอดภัย (Safety Factor) การทนต่อความสะเทือนแผ่นดินไหว ที่มีความเหมาะสมหรือต้องเพิ่มเติมส่วนใดอีกหรือไม่
นายอนุทินกล่าวอีกว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะได้แลกเปลี่ยนในเรื่องระบบการเตือนภัย เพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีระบบการเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ที่เราสามารถขอรับองค์ความรู้เพื่อพัฒนาระบบการเตือนภัยของไทยต่อไป เพื่อสร้างความมั่นใจและคลายความวิตกกังวลของสังคม เสริมความมั่นใจให้กับประชาชนคนไทยที่อาศัยในคอนโดและออฟฟิศต่างๆ บนอาคารสูงได้สบายใจขึ้น และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย และชาวต่างประเทศ ว่าการใช้ชีวิตในประเทศไทยจะต้องมีความปลอดภัย
“การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่าต้องเร่งสอบสวนเรื่องอาคารที่ทำการ สตง.แห่งใหม่ถล่ม ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน โดยต้องทราบรายละเอียดเบื้องต้นก่อน เช่น ตึกออกแบบถูกต้องหรือไม่ ก่อสร้างถูกต้องหรือไม่ และใช้วัสดุมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งผมได้กำชับอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งรัดให้ได้ข้อสรุปตามข้อสั่งการนายกฯให้มากที่สุด” นายอนุทินกล่าว