วิสาร นำกมธ.ร่างพ.ร.บ.การท่าเรือฯ ศึกษาดูงานท่าเรือกรุงเทพ วางเป้าขึ้นท่าเรือชั้นนำระดับโลก
เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ท่าเรือกรุงเทพ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย และคณะ ได้เดินทางศึกษาดูงาน โดยรับฟังการบรรยายเกี่ยวกับแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือและปัญหาที่เกิดขึ้นในการดำเนินงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย และภาพรวมการแก้กฎหมาย เริ่มประชุมและการบรรยายในเวลา 10.30 น. ในการบรรยายสรุป ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้เกี่ยวกับแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ รวมถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน และแผนการดำเนินการเพื่อรองรับร่างพระราชบัญญัติการท่าเรือ โดยมีการพูดคุยเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ภายหลังการบรรยาย คณะกมธ.ฯ เดินทางได้เยี่ยมชมบริเวณท่าเรือกรุงเทพ
การศึกษาดูงานในครั้งนี้ได้มุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการบริการของท่าเรือให้เป็นเลิศ โดยมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนคือ “มุ่งสู่มาตรฐานท่าเรือชั้นนำระดับโลก” พร้อมการให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน คณะกรรมาธิการได้มีโอกาสรับฟังการบรรยายเกี่ยวกับแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือ โดยเน้นการบริหารจัดการท่าเรืออย่างยั่งยืน โดยมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศและภูมิภาค เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและระบบโลจิสติกส์ของประเทศ
อีกทั้งการท่าเรือแห่งประเทศไทย มีวิสัยทัศน์ในการเป็นท่าเรือที่มีคุณภาพในการให้บริการ โดยมุ่งเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ ผ่านการบริหารจัดการที่มุ่งเน้นความยั่งยืน (Sustainability) โดยคำนึงถึงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) รวมถึงการบริหารจัดการภายในองค์กร การบริหารจัดการสินทรัพย์และต้นทุน และการบริหารทุนมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ คณะกรรมาธิการได้หารือเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การดำเนินงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ภายใต้แผนวิสาหกิจในปีงบประมาณ 2566-2570 ซึ่งมุ่งเน้นการยกระดับการให้บริการท่าเรือให้สนับสนุนระบบโลจิสติกส์ของประเทศ โดยมีการกำหนดกลยุทธ์ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวในการพัฒนาท่าเรือ
ทั้งนี้หนึ่งในโครงการสำคัญที่ได้รับการพิจารณาในกิจกรรมนี้คือ โครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ซึ่งมุ่งหวังให้เกิดขึ้นในเชิงพาณิชย์ โดยมีการจัดทำข้อมูลสรุปผลการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะแต่ละรูปแบบการลงทุน รวมถึงการทดสอบความสนใจของนักลงทุนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยังได้พิจารณาโครงการพัฒนาท่าเรือฝั่งตะวันตกเป็นท่าเรืออัตโนมัติ (Automated Container Terminal) โดยมีการจ้างออกแบบรายละเอียดและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EHIA) เพื่อให้โครงการนี้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาศักยภาพพื้นที่บริเวณชุมชนคลองเตยก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับการพิจารณา โดยมีการเตรียมการจัดประชุมอนุกรรมการเพื่อกำหนดแนวทางการศึกษาและพัฒนาศักยภาพพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเชื่อมโยงการขนส่งและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในช่วงท้ายของกิจกรรม คณะกรรมาธิการได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาท่าเรือให้มีความพร้อมในการให้บริการทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก และการบริหารจัดการท่าเรือ จะช่วยสนับสนุนการเชื่อมโยงโครงข่ายการขนส่งทางน้ำในระดับโลก
การประชุมครั้งนี้ได้สร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการพัฒนาท่าเรือเพื่อพัฒนากฎหมาย ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาท่าเรือแห่งประเทศไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานระดับโลกต่อไป โดยมุ่งหวังให้ท่าเรือสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต