ประธานกกต. ลั่นคำร้อง หมอเกศ เข้าสู่ที่ประชุมกกต.เดือนนี้ คาดลงมติได้ โต้กกต. ไม่เคยให้ข่าว 30 ส.ว.ส่อยุติปฏิบัติหน้าที่ ยันอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบร่วมดีเอสไอกับกต.
เมื่อวันที่ 3 เมษายน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการฮั้วเลือกส.ว. หลังกกต.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าการเชิญ ดีเอสไอ เข้าร่วมตรวจสอบก็เป็นการทำตามหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย ตามระเบียบว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนของกกต. ซึ่งเริ่มทำงานกันเมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำงานของคณะกรรมการร่วม เชื่อว่าจะต้องมีความคืบหน้า เพราะว่าทาง ดีเอสไอได้มีการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงเบื้องต้นไปแล้ว ซึ่งก็จะนำข้อเท็จจริงเหล่านี้เข้ามาสู่กระบวนการของการสืบสวนไต่สวน ก็จะไม่ได้เป็นการเริ่มต้นจากศูนย์
ส่วนกรณีที่มีรายชื่อ 30 ส.ว.อาจถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น นายอิทธิพร กลาวว่า อันนี้เป็นเพียงข่าว เท่านั้น แต่กกต.ไม่ได้ให้ข้อมูลอย่างนั้น ซึ่งกระบวนการสืบสวนไต่สวนต้องทำด้วยความเรียบร้อย และรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเสียก่อน ยังไม่สามารถด่วนสรุปอะไรได้ง่ายๆ
สำหรับกระบวนการสืบสวนตรวจสอบตรงนี้ จะมีความคืบหน้าต้องรอถึงขั้นตอนที่รู้กระบวนการฮั้วเลือกส.ว.ว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้างหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า อันนี้เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ซึ่งจะมีพยานเอกสาร พยานบุคคล และจะต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวน และ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสรับทราบข้อกล่าวหาและแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งตามกระบวนการจะต้องใช้เวลา แต่จะไม่มากเท่าไรนักเพราะว่า ได้มีการกำหนดกรอบการดำเนินการเอาไว้แล้วจะทำให้เสร็จภายในระยะเวลาเท่าใด โดยไม่ทำให้คดีนั้นเสียไป แต่เพื่อให้ความยุติธรรมกับทุกๆฝ่ายและเพื่อความชัดเจน
นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า สำหรับขั้นตอนในขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนไต่สวนของคณะกรรมการไต่สวนสืบสวนที่ได้ตั้งขึ้นมาอีก 1 คณะเมื่อเร็วๆนี้เพื่อการนี้ และกระบวนการหลังจากนั้นเมื่อมีการสืบสวนไต่สวนเสร็จแล้วในระดับคณะฯก็จะต้องส่งให้กับส่วนกลางของกกต. เพื่อให้ความเห็นประกอบ หลังจากนั้นเมื่อเลขาธิการกกต.มีความเห็นประกอบผลไต่ สวนสืบสวนประการใด ก็จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯวินิจฉัย ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของ กกต.
เมื่อถามถึงกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติการศึกษาของส.ว.พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย ว่าสังคมมองว่าล่าช้านั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า ใช้เวลาอยู่บ้าง เพราะว่าการสืบสวนไต่สวนมีประเด็นอะไรที่โผล่ขึ้นมา เราก็จะต้องทำให้มั่นใจว่าเรามีการสืบสวนไต่สวนอย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งสำนวนเรื่องนี้เคยเข้ามาที่ กกต. แล้ว แต่ในการเข้ามาครั้งที่แล้ว ที่ประชุมเห็นว่ามีประเด็นที่จะต้อง ทำการสืบสวนไต่สวนเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่ายังไม่ชัดเจน ซึ่งประเด็นส่วนใหญ่ชัดเจน แต่ในบางประเด็นยังไม่ชัดเจน จึงต้องให้ไปทำการสืบสวนไต่สวนเพิ่มเติม ซึ่งได้รับการแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่าภายในเดือนนี้ น่าจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมกกต.อีกครั้ง
เมื่อถามว่าการตรวจสอบของกรณีพญ.เกศกมลนั้นจะมีการแยกเรื่องการฮั้วเลือกส.ว.กับการตรวจสอบคุณสมบัติหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า มีคำร้องดังกล่าวมี 2 กรณี คือ มาตรา 77 (1) ซึ่งพัวพันกับการฮั้วและอีกกรณีเรื่องคุณสมบัติ จากนั้นเอาสองคำร้องมารวมเป็นหนึ่งสำนวนในทุกๆประเด็นทั้งสอง คำร้อง ซึ่งก็จะเข้าสู่ขบวนการตรวจสอบ ก่อนจะมาถึงขั้นตอนที่เราได้ขอให้สอบเพิ่มเติมบางประเด็น ทางสำนักงานกกต.ได้บอกว่า เรื่องนี้จะเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.อีกครั้งภายในเดือนนี้
เมื่อถามย้ำว่าจะสามารถนำไปสู่การลงมติได้ในครั้งนี้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า คิดว่าน่าจะนำไปสู่การลงมติได้ แต่ทั้งนี้ต้องดูว่าการพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการกกต. ซึ่งประกอบด้วยกรรมการทุกท่านนั้น หากท่านใดมีข้อสงสัยก็จะเป็นไปตามกระบวนการของกกต. ทั้งนี้ ขอย้ำว่าเราไม่ได้คิดที่จะทำอะไรให้เกิดความล่าช้าแต่อย่างใด