อิทธิพร เผยกกต.ตรวจสอบคดีฮั้วเลือก ส.ว.คืบหน้าแล้ว 30% พยานเพียบ-ต้องใช้เวลา
เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าคำร้องยื่นยุบพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรค ว่า เลขาธิการ กกต.ได้สั่งให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน สอบปากคำคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มีความคืบหน้าไปมากแล้ว เข้าใจว่าคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงจะสามารถเสนอเรื่องให้เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาได้ในเร็ววันนี้ ว่ากรณีนี้เป็นเหตุอันควรยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีการยุบพรรคหรือไม่
หากเลขาธิการ กกต.เห็นเช่นนั้นจะต้องเสนอเรื่องให้ที่ประชุม กกต.พิจารณา ถ้า กกต.เห็นด้วยกับเลขาธิการ กกต.จะส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเลขาธิการ กกต.เห็นว่าเรื่องนี้ไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอเชื่อถือได้ว่าการกระทำนี้ไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมืองจะสั่งยุติเรื่อง
นายอิทธิพรยังกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคดีฮั้วเลือก ส.ว. ว่า กกต.ตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนขึ้นมาอีก 1 ชุด มีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาร่วมด้วย การทำงานก็ไม่ได้เริ่มจากศูนย์ เพราะดีเอสไอได้รวบรวมข้อเท็จจริงเบื้องต้นไว้แล้ว คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดนี้ทำงานคืบหน้าไปร้อยละ 30 เพราะต้องเกี่ยวข้องกับการสอบพยานบุคคลซึ่งมีจำนวนมาก ต้องใช้เวลา แต่อย่างที่บอกว่าการทำงานจะเริ่มจากคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนและมาสู่ส่วนกลาง ทั้งความเห็นของเลขาธิการ กกต.ไปยังอนุกรรมการวินิจฉัยเพื่อกลั่นกรองก่อนจะเสนอที่ประชุมชุดใหญ่ กกต. เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ทำอย่างชักช้าแน่
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเรียก ส.ว.สำรองมาให้ปากคำหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า คงต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดนั้น ถ้ารับเป็นสำนวนแล้วก็ควรจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำให้ครบถ้วน เปิดโอกาสให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เพื่อสอบสวนแล้วสรุปสำนวนเป็นอย่างไรก็ส่งมายัง กกต. หรือถ้าเห็นว่าต้องสอบปากคำเพิ่มก็เพิ่มได้ เรื่องนี้เป็นไปตามระเบียบสืบสวนไต่สวน