แพทองธาร รอมะกันจัดคิวเจรจา รมว.คลังชี้ปรับแผนเจรจาสร้างความสมดุลการค้า
เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระงับการเก็บภาษีต่างตอบแทน เป็นเวลา 90 วันว่า ช่วงเวลา 90 วันถือว่าได้ทั้งหมดเกือบทุกประเทศ และคิดว่าเป็นเรื่องเวลาแต่ละประเทศต้องต่อคิวกันคุย เพราะมีจำนวนมาก ซึ่งแผนของเราที่จะทำในประเทศต้องเตรียมให้ดีขึ้น เรามองทุกมิติ และค่อนข้างจะครบอยู่แล้ว เหลือเวลาที่จะเข้าไปคุย
ผู้สื่อข่าวถามว่านายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง จะเดินทางไปพูดคุยวันไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน ทางสหรัฐตอบรับมาแล้วแต่ยังไม่ได้คิวพูดคุย เมื่อถามว่าการที่แต่ละประเทศต่อคิวคุย กับการที่ประเทศพันธมิตรในกลุ่มอาเซียนจับมือไปคุยจะมีพลังมากกว่าหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราทำทุกรูปแบบ ทุกอย่างที่จะช่วยทั้งประเทศเราและอาเซียน ถ้าจับกับอาเซียนแล้วมีพลังกว่าก็เป็นเรื่องดี แต่เราต้องทำของประเทศเราด้วย และคิดว่าทุกประเทศทำเช่นนี้
เมื่อถามว่าประเด็นที่นักวิชาการสหรัฐถูกแจ้งข้อหาจะเป็นเงื่อนไขในการเจรจาพูดคุยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เราคุยด้วยความแฟร์ โดนัลด์ ทรัมป์เปิดการเจรจาด้วยความแฟร์อยู่แล้ว เราก็ต้องคุยด้วยความแฟร์
ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเลื่อนกำหนดการบังคับใช้มาตรการภาษีโต้ตอบของสหรัฐ 90 วัน คาดการณ์ไว้ได้อยู่แล้ว เนื่องจากหลายประเทศต้องใช้เวลาเจรจาและเดินทาง แต่ภายใต้การเลื่อนกำหนดบังคับใช้ดังกล่าวมีทั้งกลุ่มประเทศที่ได้รับการเลื่อนการบังคับใช้และไม่ได้เลื่อน ไทยต้องปรับแผนการเจรจาเพื่อให้สอดคล้องกับสัดส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทุกกลุ่ม ยังคงอยู่บนพื้นฐานสร้างความสมดุลทางการค้าระหว่างประเทศ
“ไทยและหลายประเทศยังคงถูกเก็บภาษีพื้นฐานสำหรับส่งออกไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้น 10% แต่หลายประเทศก็มีต้นทุนดังกล่าวในอัตราเดียวกัน หากประเทศคู่แข่งทางตรงของไทยได้รับการปรับลดภาษี และไทยถูกเก็บภาษีสูงกว่า จึงเป็นเรื่องน่ากังวล และผู้บริโภคชาวอเมริกันจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้น” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยกล่าวว่า ส่วนกรณีความกังวลผลกระทบจากการเจรจากับสหรัฐนั้น ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร รวมไปถึงเศรษฐีเองล้วนกังวลผลกระทบสงครามการค้าทั้งสิ้นทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มเจรจาต่อรองใดๆ จึงเป็นเพียงผลกระทบทางจิตวิทยาทั้งสิ้น ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก หากจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอาจพิจารณาขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะจากปัจจุบันอยู่ที่ 70% ต่อจีดีพี แต่หากกระทรวงการคลังตัดสินใจขยายเพดานหนี้สาธารณะก็ต้องมีเหตุผล นำไปใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงต้องทบทวนมาตรการกระตุ้นการบริโภคตามแผนเดิมเนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนไป
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทรัมป์ ประกาศว่าจะระงับมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าใหม่เป็นเวลา 90 วัน ให้กับประเทศที่ขอเจรจาและไม่ตอบโต้สหรัฐกลับ เนื่องจากสงครามการค้าได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก พร้อมกับประกาศว่าจะขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากจีนเป็น 125% เพราะต้องการนำปักกิ่งเข้าสู่โต๊ะเจรจา อ้างว่าจากการขาดความเคารพที่จีนมีต่อตลาดโลก จึงปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนเป็น 125% มีผลบังคับใช้ทันทีในอนาคตอันใกล้นี้ จีนจะตระหนักว่าการเอาเปรียบสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ นั้นไม่ยั่งยืน หรือเป็นที่ยอมรับได้อีกต่อไป
ขณะที่นายหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างแถลงข่าวประจำวัน เมื่อวันที่ 10 เมษายนว่า จีนไม่สนใจจะต่อสู้กับสหรัฐ แต่ไม่กลัวหากสหรัฐยังคงใช้มาตรการภาษีข่มขู่จีนต่อไป นโยบายของสหรัฐไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและจะจบลงด้วยความล้มเหลว จีนจะไม่นั่งเฉยและปล่อยให้สิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของประชาชนชาวจีนถูกพรากไป