‘พิชัย’ ถกปรับแผนเจรจาภาษีสหรัฐ เล็งนำเข้าข้าวโพด ยัน USTRตอบรับไทยแล้ว 2พิชัยเตรียมบินเจรจาเอง
เมื่อวันที่ 11 เมษายน เวลาประมาณ 19.20 น. ที่กระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการะทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังประชุมหารือแนวทางการดำเนินการของไทยต่อกรณีนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา ว่า การหารือกันครั้งนี้ จะลงรายละเอียดของสินค้า พร้อมเรียกกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ส่งออกและทำการค้ากับสหรัฐฯ มาพิจารณาในรายละเอียดที่จะนำไปเจรจา โดยจะหาแนวทางการส่งออกไปสหรัฐฯเพิ่มขึ้น ด้วยการนำจุดแข็งมาใช้ คือ ภาคเกษตรกรรม การส่งออกเกษตรกร เพื่อการบริโภค ดังนั้นไทยต้องมาดูรายละเอียดว่าแปรรูปสินค้าใด ซึ่งจุดแข็งคือ แปรรูปอาหารสัตว์ ที่ไทยมีโอกาสเพิ่มการส่งออกไปสหรัฐฯจากปัจจุบันส่งออกได้ 3% แต่หากส่งออกได้เพิ่มขึ้น 6% จะเป็นผลดีมากด้วยการนำเข้าวัตถุดิบการผลิตอาหารสัตว์จากสหรัฐฯได้
นายพิชัยกล่าวว่า ทั้งนี้ปัจจุบันข้าวโพดใช้ 9 ล้านตัน ไทยผลิตได้ 4 ล้านตัน เรานำเข้าหลายประเทศ ดังนั้นต้องจัดสรรการนำเข้าใหม่ ที่ประโยชน์ต้องอยู่กับไทย หากนำเข้าจากสหรัฐฯไทยจะได้อะไร จากเบื้องต้นต้นทุนข้าวโพดจากสหรัฐฯต้นทุนถูกลง หากนำเข้ามาได้ ต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ถูกลงได้
“ส่วนจะบินไปเจรจาที่สหรัฐฯ เมื่อใดนั้น ก็ต้องเร็วที่สุด ทั้งนี้ยืนยันว่าทางสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา หรือ USTR ตอบรับแล้ว แต่ยังไม่ได้กำหนดวันเวลา โดยผมพร้อมบินไปกับรัฐมนตรีว่ากระทรวงการพาณิชย์ เพราะเราเป็นทีมเดียวกัน เรียก ‘พิชัย’ จะได้หันพร้อมกัน 2 คน และมีเอกชนร่วมด้วย เพื่อความแข็งแกร่ง” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยกล่าวว่า ส่วนยุทธศาสตร์การลงทุน ทางสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก็ต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์การลงทุน เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก สำหรับการเจรจานำเข้าก๊าซธรรมชาติ หรือการให้รัฐวิสาหกิจไปลงทุนแหล่งก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ นั้นก็ต้องพิจารณาและเจรจา หากไทยต้องซื้อก๊าซฯจากสหรัฐฯก็ต้องได้ราคาไม่แพงจนเกินไป
นายพิชัยกล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องภาษีรถฮาเลย์ ก็ต้องเจรจากันว่า จะยอมให้ปรับลดลงหรือไม่อย่างไร ไม่สามารถตัดสินใจได้เร็วๆ นี้ ขณะที่เรื่องการสวมสิทธิสินค้า หรือแหล่งกำเนิดสินค้า ก็ต้องเคลียร์กับสหรัฐฯด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ร่วมประชุมกับ นายพิชัย นริพทะพันธ์ุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมหารือถึงแนวทางการดำเนินการของไทยต่อกรณีนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยใช้เวลาหารือกว่า 2 ชั่วโมง