‘เท้ง’ บอกคงประเมินโอกาสยุบสภาไม่ได้ มองความเห็นต่างในพรรคร่วมรัฐบาลเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สะท้อนเสถียรภาพ สอนมวย ‘นายกฯอิ๊งค์’ ก่อนเสนอกฎหมายต้องคุยให้ตกผลึก-คุมเสียงให้ได้ ไม่งั้นส่งผลกระทบความเชื่อมั่นประชาชน
เมื่อวันที่ 12 เมษายน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ประเมินถึงเสถียรภาพของรัฐบาลหลังสงกรานต์ ว่า ยังคงเห็นการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งยังมีความเห็นที่แตกต่างกันค่อนข้างสูงในพรรคร่วมรัฐบาล สุดท้ายพรรคเพื่อไทยก็ต้องยอมถอย และถอนร่างกฎหมายออก ไม่ทันในสมัยการประชุมนี้ ซึ่งเหตุผลที่ยอมถอยนั้นเป็นสิ่งที่พวกเราเห็นด้วย และสื่อสารมาโดยตลอดว่าไม่อยากให้ดำเนินการเร่งรีบมากจนเกินไป อย่างน้อยในช่วงปิดสมัยการประชุมสภา รัฐบาลยังมีเวลาในการดำเนินการหลายเรื่อง อย่างแรกที่สุดคือ การเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ให้ครอบคลุมมากขึ้น ถัดมาคือ หลักเกณฑ์การป้องกันการฟอกเงิน หรือธุรกรรมผิดกฎหมาย การทุจริตคอร์รัปชั่น และสุดท้ายคือ การคัดเลือกเอกชนที่จะเข้ามาทำโครงการ โดยสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ ในช่วงที่ปิดสมัยการประชุมรัฐบาลก็ควรจะมีความชัดเจน รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการด้วย
เมื่อถามว่า ท่าทีของ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ที่แสดงออกชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วย สุดท้ายหากต้องนำกฎหมายดังกล่าวมาพิจารณาแล้วไม่เห็นด้วยอีก จะสะท้อนให้เห็นภาพพรรคร่วมแตกกันหรือไม่ นายณัฐพงษ์ระบุว่า ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องไปคุยกันให้ตกผลึก โดยเฉพาะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะต้องแสดงให้เห็นว่า สามารถควบคุมเสียงภายในพรรคร่วมรัฐบาลได้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ อยากจะเสนอร่างกฎหมายใดเข้ามาในสภาก็ได้ หรือเสนอเข้ามาโดยที่ภายในพรรคร่วมเองยังไม่ตกผลึก ซึ่งหากมีการดำเนินการแบบนี้เชื่อว่าก็จะมีผลกระทบ กับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
ส่วนโอกาสที่จะยุบสภานั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตนคงประเมินให้ไม่ได้ แต่การดำเนินการผลักดันร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ก็จะทำให้ประชาชนเห็นว่า มีเพียงพรรคเพื่อไทย พยายามผลักดันพรรคเดียว แต่พรรคร่วมไม่เอา ก็เป็นไปได้ที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาล ทั้งนี้ หากจะมีการยุบสภา หรือไม่ยุบ ก็คงอยู่ที่พรรคเพื่อไทย และตัวของนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำรัฐบาล