บิ๊กตู่วอนม็อบอย่าบุกที่ราชการ ขู่ใช้ กม.เข้มรอบหน้า ยัน กม.ออกทันสัมปทานรอบใหม่

แฟ้มภาพ

“บิ๊กตู่” แจงร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ต้องทำตามขั้นตอนกฎหมาย เตรียมศึกษาแบบอย่างต่างประเทศ ยันออกทันสัมปทานรอบใหม่ วอนม็อบอย่าบุกสถานที่ราชการ ขู่ใช้กฎหมายเข้มรอบหน้า

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 31 มีนาคม 2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปิโตรเลียม หลังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาปัญหาการบังคับใช้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 ยอมตัดมาตรา 10/1 และให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ศึกษาภายใน 1 ปี จะทำให้เกิดความล่าช้ากว่าที่สัมปทานกำหนดไว้หรือไม่ว่า ไม่มีปัญหาอะไร ขอให้ไปถามกระทรวงพลังงานเป็นผู้ชี้แจง แต่ในนามรัฐบาลก็ต้องรับมาทั้งหมดเพราะกฎหมายออกมาแล้ว ถ้าข้อสังเกตออกมาก็ต้องนำไปสู่การปฏิบัติตามที่เขาออกมา รัฐบาลจะต้องทำตามข้อสังเกต แต่ส่วนที่จะศึกษาอย่างไร อะไรเหมาะสมไม่เหมาะสมก็เป็นอีกเรื่อง จะหาวิธีการแบบไหนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศ โดยจะศึกษาแบบอย่างของต่างประเทศด้วย ยืนยันว่าเราจะทำงานตามความรู้สึกหรือทำงานด้วยความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันไม่ได้ ต้องให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน เพราะมีหลายวงจรธุรกิจที่มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันทั้งหมด อย่าลืม หากทำอย่างหนึ่ง ถ้าดีก็ดีทั้งหมด ถ้าเสียอย่างหนึ่งก็เสียลามปามไปทั้งหมด เราควรแก้ไปทีละอย่าง จะระดับใดก็ต้องไปดูว่าระดับล่างเป็นอย่างไร ไปแก้ไขก็จะดีขึ้น ถ้าไปตีกันล้มกันทั้งหมด ตนถามว่าธุรกิจและเศรษฐกิจจะไปอย่างไร ขอให้คิดตรงนี้ด้วย

“ขอร้องว่าการที่จะเสนอความเห็นอะไรก็ตาม หรือจะให้รัฐบาลทราบถึงความเดือดร้อน ก็เชิญไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรม อย่ามาร้องที่ทำเนียบฯ สถานที่ราชการ หรือเขตพระราชฐาน ผมจำเป็นจะต้องใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไปจากนี้ ไม่ได้ขู่นะ เพียงแต่ว่าเราต้องรักษาระเบียบบ้านเมือง ไม่เช่นนั้นจะทำอะไรกันไม่ได้ เราไม่ได้มีปัญหาเดียว เรามีปัญหาหลายร้อยปัญหา ซึ่งต้องค่อยๆ แกะและทำไป ทำอย่างเป็นขั้นตอน และขอให้ไว้ใจกันบ้าง ในส่วนที่ไม่ดีก็ขอให้บอกมาจะแก้ไขให้ทั้งหมด บางอย่างผมอาจจะรู้บ้างไม่รู้บ้างก็ขอให้บอกกันมาด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ ติติงมาผมรับได้ทุกเรื่อง เพราะผมค่อนข้างที่จะระวังในเรื่องนี้ว่าจะทำอย่างไรให้ทำงานได้สำเร็จ โดยไม่ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นมาใหม่อีกและงานอื่นๆ ที่กำลังทำมันล้มไปทั้งหมด นี่คือสิ่งที่ผมเป็นห่วง ผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องพลังงานเรื่องเดียว” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พลังงานเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจ แต่มีอีกมากมาย ประเทศไทยไม่ได้อยู่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ยังมีการค้า การลงทุน เศรษฐกิจพิเศษ การสร้างมูลค่า ไทยแลนด์ 4.0 การพัฒนาคน การลดความเหลื่อมล้ำในอาชีพ รายได้ ความเป็นอยู่สังคม ความเท่าเทียม และกฎหมาย เยอะแยะไปหมด ถ้าท่านยกประเด็นนี้มาโครมคราม นี่ก็ไม่ได้ มันก็ไม่ได้ทั้งหมด แล้วเราจะได้อะไรขึ้นมา ประเทศจะได้อะไร ท่านก็ทราบดีว่าวันหน้าจะต้องเผชิญอะไรกันอีกในโลกใบนี้ เราต้องเผชิญสถานการณ์ทางการเมืองอะไรขึ้นอีกในวันหน้า ตนกำลังแก้ไขให้และเตรียมอนาคตให้ท่าน ท่านต้องช่วยผมแค่นั้น ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน กฎหมายและระเบียบวิธีการพูดกันไปมามากๆ ตนไม่พูดด้วยแล้ว ตนส่งเอกสารให้สื่อไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา ขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปตามนั้น รัฐบาลก็รับทราบพร้อมเห็นชอบให้ดำเนินการศึกษาได้ เพราะในเมื่อมีการพูดคุยกับประชาชนมาแล้วก็ว่ากันมา ถ้าทำได้ก็ทำไป

Advertisement

“ผมไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับท่าน แต่จะทำอย่างไรไม่ให้ไปมีผลกระทบกับระบบเดิมโดยที่ไม่จำเป็น ก็ต้องไปหาวิธีการทำให้ได้ ถ้าจะทำกัน พร้อมต้องระมัดระวังว่าอย่าทำให้ธุรกิจใหญ่เสียหาย ผมขอแค่นั้น อย่าทำให้การจราจรติดขัด คนเขาก็ไม่ชอบ และผมก็โดนคนประท้วงกันว่าผมดูแลไม่ได้ กฎหมายก็มีแล้วทำไมไม่ดูแล รถก็ติดอยู่แล้ว มันพันกันไปหมด แล้วผมก็โดนคนเดียวทุกเรื่อง ขอให้เห็นใจกันบ้าง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image