มัลลิกาแนะ”บิ๊กตู่”ปรับกลยุทธ์ครม.เศรษฐกิจเรียกศรัทธา เหลือ1ปีครึ่งขาลง ไม่เช่นนั้นรัฐบาลหน้ามาเจ๊งอีก

เมื่อวันที่ 17เมษายน นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน www.mallikafoundation.com ลงบทความข้อเขียนในเฟซบุ๊คเพจชื่อ”มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข” กล่าวว่าเวลาหนึ่งปีครึ่งนับจากนี้เป็นวิถีขาลงของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย จะอาศัยข้าราชการตอบสนองเต็มร้อยนั้นเป็นเรื่องยากในภาวะเกียร์ว่างนี้รัฐบาลจะถูกโจมตีพุ่งเป้าไปที่เรื่องปากท้องประชาชน ถ้ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ปรับกลยุทธ์ มีหวังกอดคอกันกลับกรมกองไม่เป็นท่า

นางมัลลิกา กล่าวว่า นายกฯควรปรับนโยบายกับปรับรัฐมนตรี ถ้านโยบายดีรัฐมนตรีไม่ได้เรื่องก็เอาออกไปบ้าง ตัวชี้วัดไม่ใช่แค่ตัวเลขของกระทรวงคลังแต่ที่ความฝืดเคืองของประชาชน ความเป็นอยู่ลำบาก การทำมาหากินยาก สภาพคล่องในกระเป๋าประชาชนหายไป อาชญากรรมมาก นี่เองจะเป็นชนวนให้ประชาชนเบื่อรัฐบาลทหารและพอดีกับมีจังหวะที่จะได้เลือกตั้งแบบมีความคาดหวังในใจ การเลือกผู้แทนฯจากการโฆษณาชวนเชื่อกลุ่มการเมืองที่สร้างความหวังด้วยการตลาดแนวเดียวกับ “ทัวร์โชกุน” จะกลับมาวังวนเดิม

“ถ้าเป็นเช่นนี้ ดิฉันเล็งเห็นสภาพรัฐบาลในอนาคตหลังเลือกตั้งก็ยังอยู่ยากเพราะถ้ารัฐบาลไม่ใช่เสียงข้างมากกฎหมายฉบับแรกเข้าสภาก็เจ๊งแล้ว เพราะสว.นั้นเลือกนายกฯได้แต่โหวตกฎหมายในสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ สภาผู้แทนฯก็วุ่นอีก การตั้งรัฐบาลภายใต้ระบบไฮบริดจะไม่ง่ายดังใจที่กลุ่มก้อนทางทหารคิด” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า

นางมัลลิกา กล่าวว่า เสนอว่ารัฐบาลผู้มีอำนาจในเวลานี้ควรแสดงแสนยานุภาพด้วยการปรับกลยุทธ์แก้ไขการทำงานของรัฐมนตรีและตัวนโยบายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประชาชนโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจปากท้องอย่างที่ประชาชนต้องการ และใช้มาตรา 44 ขับเคลื่อนนโยบายทางด้านเศรษฐกิจปากท้องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ใช้คำสั่งคสช.ทลายกำแพงและอุปสรรคต่างๆทางด้านปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง เปิดกว้างนโยบาย ตรวจสอบแผนงานค้างทุกกระทรวง ระดมการลงทุนจากเอกชนภายในประเทศที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การขับเคลื่อน การหมุนเวียนทางการเงินที่มาจากเม็ดเงินลงทุนจากเอกชนรายย่อยระดับ 1,000-3,000 ล้าน โครงการเล็กรวมกันหลายๆโครงการ จากนโยบายหลายกระทรวงเศรษฐกิจ และควรเลิกหวังกับโครงการประชารัฐได้แล้วเพราะมันไม่ได้ดั่งหวังแล้วและไม่ควรรอคอยเมกกะโปรเจคเพียงอย่างเดียว

Advertisement

และช่วงเวลาที่ดีที่สุดของสถานีโทรทัศน์ที่ตัดเข้ารายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ควรผลิตสกู๊ปข่าวหรือฉายสารคดีที่มาของรัฐบาลทหารนี้ โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับการปราบทุจริตคอร์รัปชั่นให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ ควรรายงานเป็นสกู๊ปสั้น 2-3 นาทีต่อเรื่อง/ต่อคดี แยกประเภท เช่น คดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง คดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตซึ่งตัดสินโดยศาล คดีที่อยู่ระหว่างศาล และคดีที่อยู่ขั้นสอบสวน และควรผลิตสารคดียาว 15-20 นาทีในภาพรวมทั้งหมดออกอากาศ เวลารวม 4 ปีครึ่งไม่ควรทิ้งปัญหาให้ประชาชนสงสัยอีก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image