“เรืองไกร” จ่อร้อง ป.ป.ช.เอาผิด ครม.-สรรพากร สั่งประเมินภาษี”แม้ว”1.7หมื่นล้านไม่ชอบ

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 20 เมษายน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากกรณีที่ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ให้กรมสรรพากรทำการประเมินภาษีจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จำนวนกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรได้นำหนังสือประเมินภาษีที่ไม่มีการระบุเลขที่ ไปปิดที่หน้าบ้านเมื่อ 28 มีนาคมที่ผ่านมานั้น เรื่องดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจโดยไม่มีหลักกฎหมายและผิดไปจากข้อเท็จจริงที่ยุติไปแล้ว ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ อม. 1/2553 และคำพิพากษาศาลภาษีอากรกลางที่ 242-243/2553 ซึ่งจากผลของคำพิพากษาทั้งสอง กรมสรรพากรจึงมีการสั่งยุติเรื่องไปแล้ว ทั้งนี้ตามเอกสารราชการที่ถือเป็นหลักฐานเด็ด 2 ฉบับ คือ บันทึกข้อความของสำนักตรวจสอบภาษีกลาง ที่ กค 0710/ตส/1460 ลงวันที่ 2 มี.ค.55 ที่อธิบดีกรมสรรพากรมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง และหนังสือกระทรวงการคลังที่ กค 0717/ล.1804 ลงวันที่ 15 พ.ย.55 ที่ตอบไปยัง ป.ป.ช.ว่าการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปดังกล่าวไม่เกิดขึ้น เมื่อธุรกรรมการซื้อขายหุ้นไม่เคยเกิดขึ้น ดังนั้น นายทักษิณย่อมไม่มีเงินได้จากการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปผ่านบริษัทแอมเพิลริชแต่อย่างใด และการขายหุ้นชินคอร์ปให้กลุ่มเทมาเส็กเมื่อวันที่ 23 มกราคม 49 ก็เป็นการขายในตลาดหลักทรัพย์ กำไรที่ได้จากการขายหุ้น จึงได้รับยกเว้นภาษีตามกฎกระทรวง

นายเรืองไกร กล่าวว่า ครม.กรมสรรพากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องรู้ถึงผลของคำพากษาศาลฎีกาและศาลภาษีแล้ว รวมทั้งการสั่งยุติเรื่องตามข้อความในหนังสือทั้งสองฉบับด้วย ดังนั้นการหาเหตุมาประเมินภาษีครั้งนี้ จึงชัดเจนว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีอำนาจที่จะทำได้ ในฐานะหนึ่งในทีมงานนายกฯ ทักษิณ ท่านยังบอกกับตนที่ดูไบเมื่อช่วงสงกรานต์ว่า เรื่องนี้น่าจะมีเหตุมาจากความไม่พอใจส่วนตัวของคนไม่กี่คนที่อาจอยู่เบื้องหลังกรณีนี้ คนที่รับไม้ต่อก็ทำไปโดยมีเจตนากลั่นแกล้งเพื่อหวังผลทางการเมือง ซึ่งการไม่ใช้กฎหมายอย่างนี้อาจส่งผลกระทบไปถึงการปรองดองด้วย ดังนั้นการสั่งให้ประเมินไปก่อนแล้วให้นายกฯ ทักษิณไปสู้คดีต่อในชั้นศาลดังที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวไว้ จึงเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าลักษณะความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมาย ป.ป.ช. อย่างชัดเจน รวมทั้งกรณีนี้ ป.ป.ช.ต้องทราบดีอยู่แล้วด้วยตามหนังสือที่กระทรวงการคลังส่งให้ ป.ป.ช. ดังกล่าวข้างต้น ด้วยเหตุนี้จึงต้องร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อให้ทำการไต่สวนเอาผิดกับ ครม.และกรมสรรพากรต่อไปโดยเร็ว โดยจะไปยื่นหนังสือด้วยตนเองที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำในวันที่ 21 เมษายนนี้ เวลา 10.00 น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image