“วิโรจน์” ขอรบ.แก้ปัญหาปมปลดล็อกพรรคการเมือง เพื่อพรรคการเมืองจะได้ดำเนินการตามกม.ส่วนเรื่องสำรวจสมาชิก พรรคได้ดำเนินการด้านเอกสารไว้
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตนคิดว่าปีหน้าคงจะมีการเลือกตั้งตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้หลายครั้งหลายหน อย่างไรก็ตามปัญหาในวันนี้ของพรรคการเมืองคือการต้องทำกิจกรรมหลายอย่างตามที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนด บางอย่างก็กำหนดให้ทำใน 90 วันบางอย่างก็กำหนดให้ทำใน 180 วัน และหากไม่ทำก็เสี่ยงที่พรรคอาจจะถูกลงโทษ แต่ประกาศของคสช. ก็ยังไม่ปลดล็อคพรรคการเมือง ก็หวังว่ารัฐบาลจะหาทางแก้ไขให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรม ตนคิดว่ารัฐบาลควรเปิดช่องตรงนี้เพื่อให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง เพราะในการเลือกตั้งพรรคการเมืองจะต้องใช้เวลา เพื่อเตรียมการหลายๆอย่าง ซึ่งหากใกล้เวลาแล้วค่อยเริ่มอาจจะทำให้เกิดความไม่เรียบร้อยได้
เมื่อถามว่าอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะครบกำหนดวันที่ 5 มกราคมแล้วพรรคพท.เตรียมการต่างๆทันหรือไม่อย่างไร พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า เวลานี้ทำอะไรก็ต้องระมัดระวังทุกอย่าง เพราะไม่อยากทำผิดกฎหมาย อะไรที่ทำได้ก็ทำ แต่อะไรที่ทำไม่ได้ก็ไม่ได้ทำ ส่วนการอัพเดทเรื่องสมาชิกพรรค ขณะนี้ดำเนินการได้เพียงด้านเอกสารซึ่งได้มีการทำหนังสือสอบถามไปยังนายทะเบียนกลาง เช่น เรื่องของสมาชิกที่ย้ายที่อยู่ หรือสมาชิกที่เสียชีวิต ส่วนการจะลงไปพบปะสมาชิกในพื้นที่จริงๆก็ยังทำไม่ได้ เพราะหลายคนก็จะวิตกว่าจะกลายเป็นการทำกิจกรรมทางการเมือง ทั้งนี้ พรรคได้ทำเอกสารตรวจสอบคุณสมบัติของสมาชิกไว้แล้ว ก็มีการเตรียมไว้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พรรคให้ความสำคัญมาก เพราะกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดคุณลักษณะต้องห้ามไว้อย่างเข้มมาก เราไม่อยากให้มีปัญหาตอนทำไพรมารีโหวต
เมื่อถามถึงกระบวนการสรรหากกต.ของศาลฎีกาที่อาจขัดต่อกฎหมายเนื่องจากเป็นการประชุมลับ พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า ตนติดตามมาตลอดซึ่งก็เห็นว่ามีความเห็นไปในสองทางคือ เปิดเผยแบบที่ให้ผู้คัดเลือกและผู้ได้รับเลือกเห็นกัน วิธีการกาบัตร ตนคิดว่ากฎหมายระบุไม่ชัด
เมื่อถามว่า คนมองว่ากกต.ที่ได้มาเป็นคนของคสช.มากจนเกินไป พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องเป็นคนของใครตนคงไม่กล้าคิด ไม่กล้าวิจารณ์ เพราะเราไม่มีข้อมูล
เมื่อถามว่ามีข้อเสนอว่าหากดำเนินการกิจกรรมของพรรคไม่ทันอาจมีการเสนอให้กกต.ยื่นสนช.เพื่อแก้กฎหมายลูกเรื่องกรอบเวลา พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า ความจริงเรื่องปลดล็อคนี้ทางพรรคเคยทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบว่าท่านจะดำเนินการอย่างไร เพราะเรื่องจะแก้กฎหมายหรืออะไรก็อยู่ที่รัฐบาล แต่โรดแมปที่ปรากฎในรัฐธรรมนูญ ตนคิดว่าก็ต้องเป็นไปตามโรดแมป จะแก้อะไรก็ตามก็ต้องอยู่ในกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนด
เมื่อถามว่า ในฐานะพรรคที่ถูกตรวจสอบบ่อย คาดหวังการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลของป.ป.ช.อย่างไรบ้าง พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า ตัวประธานป.ป.ช.เองท่านเป็นคนดี มีความยุติธรรม ซึ่งการทำงานเป็นคณะก็คิดว่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ขอเพียงอย่างเดียวว่าการทำอะไรก็อย่าเลือกปฏิบัติ ทำเป็นมาตรฐานเดียวกัน จะทำให้เกิดความรู้สึกโปร่งใส ไม่ใช่คิดจะทำเรื่องไหนก็ทำเรื่องนั้น จะไม่ทำเรื่องไหนก็ไม่ทำ บางเรื่องปล่อยทิ้งไว้จนจะขาดอายุความ หรือขาดอายุความไปแล้วก็มี แต่เรื่องไหนเร็วจนคนคาดไม่ถึงก็มี ทั้งนี้หากไม่เลือกปฏิบัติก็จะทำให้ป.ป.ช.สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับประชาชนได้
เมื่อถามว่า ประธานป.ป.ช.เอง สนิทกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม การตรวจสอบเรื่องนาฬิกาหรูประธานป.ป.ช.ควรถอนตัวออกมาหรือไม่ พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องใครจะสนิทอย่างไรกับใครตนเอง ตนไม่ทราบ
