‘ประยุทธ์’ดีใจ IMF มองเศรษฐกิจไทยบวก สั่งทุกโครงการเดินหน้ากระตุ้น ศก.เต็มที่

บิ๊กตู่ ปลื้ม IMF มองเศรษฐกิจไทยบวก สอดคล้องผลการคาดการณ์ของหน่วยงานภายในประเทศ ชี้ยอดส่งออกสองเดือนแรกเป็นบวกช่วยหนุนความมั่นใจเศรษฐกิจภาพรวมโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 สั่งเดินหน้าทุกโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับทราบรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ที่ออกรายงานผลการประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยประจำปี 2559 โดยระบุว่าจะขยายตัวร้อยละ 3 และจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2560 ที่ร้อยละ 3.2 เนื่องจากความเชื่อมั่นในด้านการค้าการลงทุนปรับตัวดีขึ้น และนโยบายการลงทุนของภาครัฐที่ผลักดันให้เกิดแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ รู้สึกยินดีที่ IMF มีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของหน่วยงานภายในประเทศหลายแห่ง อาทิ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ร้อยละ 2.8-3.5 ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.1 โดยได้สั่งการก่อนเดินทางไปร่วมประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ครั้งที่ 4 ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า ให้ทุกหน่วยงานเดินหน้าทุกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการลงทุนภาครัฐ การสานความสัมพันธ์คู่ค้าหาตลาดใหม่เพื่อการส่งออก การสนับสนุนเงินทุนและการปรับปรุงนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ SME รวมถึงนโยบายกองทุนชุมชน และการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ โดยทุกโครงการต้องมีความคืบหน้าในระยะเวลาที่วางไว้ หากโครงการใดจำต้องคลาดเคลื่อนออกไปจากแผนดำเนินการ ผู้รับผิดชอบต้องมีคำอธิบายที่สมเหตุสมผล ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างดีที่สุดเพื่อประเทศไทยของทุกคน”

พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า นายกฯ ฝากให้กำลังใจทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่ทำงานอย่างหนัก จนทำให้ตัวเลขการส่งออกไทยในช่วงสองเดือนแรกของปี เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดหวังว่าตัวเลขการค้าของไทยจะสดใสตลอดทั้งปี แม้เศรษฐกิจโลกในภาพรวมจะมีแนวโน้มชะลอตัว แต่เศรษฐกิจไทยยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและเชื่อมั่นว่าจะขยายตัวต่อไป ซึ่งจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่วยหนุนให้เกิดความมั่นใจได้ว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวมจะเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ทั้งนี้ นายกฯ รู้สึกปลื้มใจเป็นพิเศษที่สินค้าในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวสูงสุดเพราะเกี่ยวเนื่องและส่งผลประโยชน์ถึงพี่น้องเกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศด้วย