‘วิษณุ’ ย้ำเลือกตั้งปี 60 แต่จะคาดคั้นเลือกตั้งเกิดในก.ค.60ไม่ได้-เปิดกว้างคำถามพ่วง

“วิษณุ” เผย คสช.มีแผนรองรับหาก รธน.ไม่ผ่านประชามติ ย้ำเลือกตั้งปี 60 ระบุคำถามพ่วงรื้อ รธน.ทั้งฉบับก็ยังได้

เมื่อเวลา 07.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงวันเลือกตั้งหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติว่า ยังไม่มีใครรู้ เนื่องจากต้องมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญจำนวน 4 ฉบับก่อน ซึ่งไม่ทราบว่าจะเสร็จเมื่อใด แต่ไม่ช้า ไม่ต้องกลัว เพราะต้องหยิบ 4 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งมาพิจารณาก่อนฉบับอื่นๆ โดยจะเสร็จในช่วง 1-2 เดือนแรก แล้วนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 2 เดือน และส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าเร็ว เพราะมีวิธีที่จะประสานให้เร็วได้คือ ร่างไปส่งไป จากนั้นนำขึ้นทูลเกล้าฯ ตรงนี้จะต้องมีระยะเวลาที่สำนักราชเลขาธิการจะไปดำเนินการ เมื่อเสร็จครบ 4 ฉบับจะเริ่มนับหนึ่งภายในระยะเวลา 150 วัน ดังนั้น การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ตามโรดแมปภายในปี 60 แต่จะมาคาดคั้นให้ได้เดือนกรกฎาคม 2660 ไม่ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่ระบุว่าจะมีเซอร์ไพรส์ในการเรื่องการทำพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ นายวิษณุ กล่าวว่า หมายความกรณีที่มีคนไปคิดกันว่าทุกอย่างมันจะล่าช้าไปจนกระทั่งถึงปี 2561 โดยไปคิดกันว่าต้องใช้เวลาทำพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 8 เดือน แต่กลับไม่คิดว่า 4 ฉบับนั้นจะต้องเสร็จก่อน 8 เดือน ดังนั้น ตนถึงบอกว่าเขาได้เตรียมการณ์อะไรกันไว้พอสมควรที่จะทำให้มันเร็ว แล้วมันอาจจะเร็วเกินกว่าที่คิด ตนจึงใช้คำว่าอาจจะมีเซอร์ไพรส์ เพราะถ้าเซอร์ไพรส์แล้วคนด่าเขาอาจจะไม่เซอร์ไพรส์ก็ได้ ปล่อยไปตามปกติ

เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้มีการคิดเผื่อไว้หรือยังหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะทำอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าไม่ผ่านการลงประชามติจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 แน่นอน เพื่อบอกว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร เอาไว้อีกสักพักคงจะรู้ แต่รู้แล้วคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเปิดเผยหรือไม่ตนไม่ทราบ โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวจะเกิดขึ้นหลังจากทราบผลการลงประชามติอย่างเป็นทางการแล้ว เพียงแต่ก่อนจะทราบผลจะมีแผนรองรับเอาไว้ก่อน ไม่ใช่ว่าทราบผลการลงประชามติวันที่ 10 สิงหาคม แล้วจะต้องไปใช้เวลายกร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับแก้ไขเพิ่มเติมกันนาน เพราะเผลอๆ จะเข้าสนช.วันที่ 11 สิงหาคมเลย ตนเชื่อว่าที่สุดแล้วกระบวนการที่จะทำต่ออย่างไรกับร่างขึ้นมาโดยอยู่บนพื้นฐานใหม่อย่างไร คงมีการเตรียมกันไว้ตั้งแต่อยู่ในช่วงที่คนไปลงประชามติกัน เพื่อให้เดินหน้าได้รวดเร็ว

เมื่อถามถึงชอบเขตการรณรงค์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องไปดูว่าร่างพ.ร.บ.ประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่สนช.กำลังพิจารณากันอยู่เขียนเอาไว้อย่างไร ส่วนที่ใครหรือพรรคใดจะบอกไม่เห็นด้วยขณะนี้ทำได้ การบอกจุดยืนของตัวเองและสมาชิกพรรคไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ถ้อยคำนั้นจะต้องไม่โกหก บิดเบือน ไม่เป็นการให้สัญญาล่อลวง จูงใจ ให้สินบน จ้าง เพื่อให้ลงประชามติเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย

ADVERTISMENT

รองนายกฯ กล่าวว่า สำหรับคำถามพ่วงในการทำประชามติเป็นเรื่องของสนช.ที่จะต้องตั้งคำถาม ซึ่งคิดเองหรือเอามาจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) หรือเอามาผสมรวมกันเพียง 1 ข้อ โดยไม่ต้องส่งมาให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนแนวคำถามนั้นตั้งได้หมดทุกอย่าง แต่ถ้าตั้งแล้วไปกระทบต่อหลักการไม่ว่าจะเป็นบทถาวรหรือบทเฉพาะกาล ต้องให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ไปแก้ไขให้ตรงกับคำตอบที่ได้จากประชามตินั้นภายใน 30 วัน แล้วส่งศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเห็นว่าแก้ไขตรงแล้วก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ

เมื่อถามย้ำว่า สนช.สามารถตั้งคำถามพ่วงที่แตกต่างจากเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ เช่น อยากให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ รองนายกฯ กล่าวว่า ทำได้หมด เขาถึงได้เขียนว่าถ้าต่างกันก็ต้องไปแก้ให้เข้ากับผลประชามติ เพราะประชามติใหญ่กว่าอย่างอื่น เรื่องบัตรเลือกตั้ง 1 ใบกรธ.เป็นคนคิด แม่น้ำ 4 สายท้วงไปเขายังไม่ยอมเลย แต่ถ้าคนเป็นล้านเขาคิดให้เป็นอย่างอื่นก็ต้องปรับแก้