‘มาร์ค’ แฉอีก สกัดกลุ่มทุนไม่ให้หนุนพรรคเก่า แถมใช้ทุนล่อทาบทามอดีต ส.ส.

“มาร์ค” แฉอีก สกัดกลุ่มทุนไม่ให้หนุนพรรคการเมืองเก่า ยกตัวอย่างวิธีดูด “ไปอยู่กับเขาเถอะ อยู่ที่นี่ไม่มีใครสนับสนุนด้านทุนนะ” เผย ปชป. ก้าวสู่ยุคใหม่ ไม่สน “โหร คมช.” ทำนายจับมือ พท.เป็นฝ่ายค้าน

วันที่ 27 เมษายน 2561 ที่หมู่บ้านสมชายใหม่ เขตบางพลัด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการที่รัฐบาลดึงตัวนักการเมืองหลายกลุ่มเข้ามาทำงานว่า ฝ่ายคนมีอำนาจก็ต้องใช้อำนาจไป แต่การใช้อำนาจต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ซึ่งประชาชนก็เฝ้าดูอยู่ว่าใช้อำนาจอย่างเป็นธรรมหรือไม่ ส่วนการระดมทุนเพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้นต้องไปถามคนที่พูด แต่ยืนยันได้ว่ามีความพยายามสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มทุนมาสนับสนุนพรรคการเมืองอื่น โดยมีคนในรัฐบาลมายืนยันกับตน แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ ตัวอย่างเวลาที่มีการทาบทาม เขาก็จะบอกกันว่า “ไปอยู่กับเขาเถอะ ถ้าอยู่ที่นี่ไม่มีใครจะสนับสนุนด้านทุนนะ เพราะเขาดูแลได้หมด” ส่วนกลุ่มทุนเก่าๆ ที่สนับสนุนพรรค ปชป.ขณะนี้ยังไม่มีการคุยกัน เพราะตอนนี้เป็นช่วงที่ยังไม่สามารถทำกิจกรรมได้ เรื่องทุกอย่างที่ทำก็เป็นเรื่องภายใน เรื่องการปรับปรุง ปฏิรูปกระบวนการต่างๆ และการบริหารจัดการภายในพรรค การทำนโยบาย

เมื่อถามว่า การสกัดกลุ่มทุนถือว่าเป็นการสร้างความไม่เป็นธรรมหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยู่ที่ความศรัทธา ความตั้งใจทำทุกอย่างให้โปร่งใส ใครอยากจะตั้งพรรคการเมืองหรือเข้าสู่อำนาจก็ใช้สิทธิของตัวเองได้ แต่การใช้อำนาจรัฐ การใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง พวกตนไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เป็นปัญหาของบ้านเมือง และที่การเมืองไทยตกอยู่ในวังวนแบบนี้ก็เริ่มจากการเข้าสู่อำนาจโดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม จึงเกิดปัญหาความขัดแย้งตามมา สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทำอย่างไรให้ระบบเดินอย่างที่ควรจะเดิน และพรรค ปชป.ก็เดินตามแนวทางของเรา ซึ่งเชื่อว่ายังมีประชาชนจำนวนมากต้องการสนับสนุนแนวทางที่ถูกต้อง

เมื่อถามถึงการวิเคราะห์ของโหร คมช. ว่าพรรค ปชป.กับพรรคเพื่อไทย (พท.) จะจับมือกันเป็นฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปกติการเป็นฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องจับมือกันก็ได้ เพราะฝ่ายค้านก็คือฝ่ายที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ส่วนอนาคตจะเป็นการเมือง 3 ฝ่ายหรือไม่ คงต้องรอการเลือกตั้ง เพื่อดูว่าแต่ละคนจะเสนอแนวทางของตนเองอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันในแนวคิดและอุดมการณ์ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงก้าวสู่ยุคใหม่ จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน

Advertisement

“การได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง พรรค ปชป.ผ่านมาเยอะแล้ว ก็เป็นเรื่องธรรมดา คนที่ยึดมั่นความถูกต้องก็เสียเปรียบ คนทำอะไรไม่อายก็ได้เปรียบ แต่สุดท้ายผู้ตัดสินคือประชาชน หวังว่ากระบวนการการเลือกตั้ง ถ้าสุจริตเที่ยงธรรม แข่งขันกันอย่างเสมอภาค มีเสรีภาพในการแสดงความเห็น ซึ่งวันนี้ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร แม้อำนาจในรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าไม่ฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนก็จะเกิดปัญหาแน่ในอนาคต วันนี้การเมืองเป็นเรื่องของแนวทาง เป็นเรื่องของอุดมการณ์ ถ้าการเมืองยังเป็นเรื่องของการต่อรอง ทุกคนก็วิ่งแสวงหาอำนาจโดยไม่คำนึงถึงวิธีการว่ามีความตั้งใจตรงกันหรือทำงานให้เพื่อบ้านเมืองอย่างไร การเมืองก็ไม่มีทางเดินไปข้างหน้าได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึง ครม.สัญจรที่ จ.บุรีรัมย์ วันที่ 7-8 พฤษภาคมว่า รัฐบาลก็ทำระบบ ครม.สัญจรกันมานานแล้ว ซึ่งจะต้องดูที่รูปแบบ ถ้าเป็นไปเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ตอบสนองประชาชนได้ดีขึ้นก็เป็นเรื่องดีไม่มีปัญหาอะไร

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงส่วนการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมว่า ต้องเคารพสิทธิของคนที่ต้องการแสดงออกและมีความเห็นต่าง แต่ขณะเดียวกันคงไม่มีใครอยากเห็นความวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะจะมีความสุ่มเสี่ยงทำให้บ้านเมืองหันเหไป แทนที่จะกลับสู่เส้นทางของการเลือกตั้ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image