‘องอาจ’ชี้คำถามพ่วงโหวต ‘นายกฯ’ บิดเบือนหลักการ-เจตนารมณ์

เมื่อวันที่ 4 เมษายน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีมติตั้งคำถามพ่วงประชามติให้ ส.ว.สรรหา เลือกนายกฯระยะเปลี่ยนผ่าน 5 ปีได้ ว่า หากประชาชนเสียงข้างมากเห็นชอบต้องไปแก้ไขเพิ่มเติมในรัฐธรรมนูญ น่าจะขัดต่อเจตจำนงของประชาชนที่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญไปแล้ว แต่ร่างรัฐธรรมนูญกลับถูกเปลี่ยนแปลงภายหลังออกเสียงประชามติ ซึ่งตนไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายหลัง และถ้าประชาชนรู้ว่ารัฐธรรมนูญจะถูกแก้ไขเพิ่มเติมอีกครั้งโดยใส่เนื้อหาสาระดังกล่าวก็คงลงมติไม่เห็นชอบรัฐธรรมนูญก็ได้ อย่างไรก็ตามหากพิจารณาหลักการ การให้อำนาจ ส.ว.ซึ่งมีที่มาจากการคัดเลือกขั้นสุดท้ายของ คสช. ทั้ง 250 คน สามารถลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ถือว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต ไม่สอดคล้องกับที่มา และไม่ควรมีอำนาจเท่าเทียมกับ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 50 ล้านคนทั่วประเทศ

“การนำคำถามพ่วงมาเบี่ยงเบนเจตจำนงของประชาชน ย้อนแย้งเนื้อหาสาระในรัฐธรรมนูญ ก่อให้เกิดความสับสน สร้างความเหลื่อมล้ำทางอำนาจ มีนัยยะแอบแฝงเพื่อการแสวงหาอำนาจโดยไม่ชอบของคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้น ดังนั้นถ้า สนช. ปล่อยให้มีคำถามพ่วงลักษณะนี้ พ่วงไปกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ อาจจะก่อให้เกิดปัญหาด้านลบมากกว่าด้านบวก จึงขอฝากให้ สนช. พิจารณาเรื่องคำถามพ่วงให้รอบคอบ รัดกุม และคำนึงถึงประโยชน์ระยะยาวของส่วนรวมเป็นหลักมากกว่าประโยชน์เฉพาะหน้าของคนไม่กี่คน” นายองอาจ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image