“ปชป.”เตรียมข้อบังคับพรรคพร้อมรับเลือกตั้ง “นิพิฏฐ์” เชื่อเลือกผู้บริหารใหม่ไม่มีแรงกระเพื่อม “องอาจ” เผยข้อบังคับใหม่แตกต่างอันเก่า ปมลูกพรรคโหวตเลือกหน.-เลือกกก.บห.ยังใช้วิธีเดิม
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงการเตรียมการของพรรคปชป.ในระหว่างที่ยังไม่สามารถประชุมพรรคการเมืองได้ว่า พรรคมีการเตรียมข้อบังคับพรรคเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีความเปลี่ยนแปลงจากเดิม ซึ่งตนมั่นใจว่าในการเลือกผู้บริหารใหม่จะไม่มีแรงกระเพื่อมภายในพรรค เนื่องจากส่วนใหญ่ยังยืนยันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคฯต่อไป และเชื่อว่า สมาชิกพรรคก็จะเลือกนายอภิสิทธิ์ เช่นเดียวกัน แต่ปัญหาคือระบบเลือกตั้งใหม่ ส.ส.เขตจะมีความสำคัญค่อนข้างสูง ทำให้ส่วนใหญ่อยากลง ส.ส.ในระบบเขต จึงเป็นปัญหาของพรรคใหญ่ในการจัดคนลงสมัคร เนื่องจากไม่มีใครอยากขึ้นส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะมีความเสี่ยงสูงขึ้น และยังต้องทำไพรมารีโหวตด้วย
“ผมจึงเสนอความเห็นกับหัวหน้าพรรคให้เติมคนใหม่ในบัญชีรายชื่อ เพื่อให้เห็นว่า มีการถ่ายเทคนใหม่เข้ามาเป็นเลือดใหม่ทางการเมือง ถ้าเอาคนใหม่ไปอยู่เขตก็อาจไม่มีปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้าน เพราะพบปัญหาในเรื่องที่สมาชิกมายืนยันตัวตนไม่ได้กระจายทั่วประเทศ แต่หนักไปในบางพื้นที่ ทำให้การทำไพรมารีโหวตมีแนวโน้มจะเลือกคนในพื้นที่ตัวเอง ซึ่งจะทำให้บัญชีรายชื่อกระจุกในบางภาค เช่น แสนคนของสมาชิกประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ อยู่ที่ภาคใต้สี่หมื่นคน สมาชิกภาคใต้ก็จะเลือกคนที่ตัวเองรู้จัก ทำให้บัญชีรายชื่อในภาคอื่นไม่ได้กระจายไปทุกพื้นที่” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า ตนมีความมั่นใจว่า จะมีการแก้กฎหมายพรรคการเมืองอีกรอบ โดยไม่มีการทำไพรมารีโหวต เนื่องจากต้องมีสมาชิกจังหวัดละ 100 คน รวมทั่วประเทศต้องมีเป็นหมื่น แต่บางพรรคยังหาไม่ได้ ยิ่งพรรคใหม่ที่สนับสนุนทหารยิ่งยากที่จะหาสมาชิกให้ครบตามจำนวน จึงน่าจะมีการแก้กฎหมายพรรคการเมืองให้สมประโยชน์กับพรรคการเมืองใหม่ที่สนับสนุนทหาร โดย คสช. อาจใช้ช่วงเวลานี้ประชุมกับพรรคการเมืองเพื่อสอบถามความเห็น เพื่อให้มีการเสนอให้แก้ไข
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคฯ กล่าวว่า ข้อบังคับเก่าและข้อบังคับใหม่ในครั้งนี้แตกต่างกัน เพราะพรรคได้มีการปรับข้อบังคับใหม่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมือง และให้สอดคล้องกับการดำเนินการของพรรคด้วย เช่น การเลือกตั้งแบบไพมารีโหวตในการสรรหาผู้สมัครในข้อบังคับพรรคฉบับเก่าไม่มีว่าต้องทำอย่างไร และของเดิมที่ให้สาขาพรรคเป็นคนเลือกผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ของใหม่จะให้สมาชิกมีสิทธิเลือกผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค รวมถึงยังมีการปรับในเรื่องการสมัครสมาชิกต้องเสียค่าบำรุงพรรค ซึ่งจากเดิมไม่ต้องเสียค่าบำรุง ขณะเดียวกันยังมีการปรับข้อบังคับใหม่ในเรื่องการเลือกหัวหน้าพรรคโดยตรง ให้สมาชิกเป็นผู้โหวตเลือกผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุดจะได้เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนกรรมการบริการพรรค(กก.บห.)ยังคงเลือกจากที่ประชุมใหญ่เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ข้อบังคับดังกล่าวจะต้องผ่านที่ประชุมกก.บห.ก่อนซึ่งที่ประชุมอาจจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขก็ได้
