‘โฆษก รบ.’ ลั่นปฏิรูป 4 ปีไม่มีทางสำเร็จ ต้องทำตลอดเวลา บอกที่ผ่านมาปฏิรูปไปหลายเรื่องแล้ว ขอสื่อช่วยทำความเข้าใจ ปชช. อย่าท้อตามคำวิจารณ์ของบางคนที่คิดว่าปฏิรูปเป็นเรื่องยากเกินไป
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีข้อสั่งการในที่ประชุม ครม.ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การปฏิรูปไม่คืบหน้าว่า ขณะนี้แผนปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้าน มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว แต่กลับเป็นที่ฮือฮา เผยแพร่และลือกันไปต่างๆ นานา ซึ่งนับเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะมีสิทธิสงสัยได้ แต่ตนได้อธิบายมาเป็นระยะแล้วว่าแผนการปฏิรูปไม่จำเป็นจะต้องนำมาปฏิบัติทุกเรื่องแต่หน่วยงานราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม จะต้องตรวจสอบงานของตัวเองในทั้ง 11 ด้าน ว่าจะต้องทำในเรื่องใดบ้าง เรื่องใดสามารถทำได้ทันที หรือทำได้ในระยะเวลากี่เดือนข้างหน้า ต้องกำหนดให้ชัดเจน ก่อนเสนอให้ ครม.ทราบ แล้วปรับแก้กฎหมายต่างๆ เพื่อให้การดำเนินการมีกฎหมายรองรับ ส่วนเรื่องใดที่ทำไม่ได้ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเสนอให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศปรับแก้ ซึ่งอาจจะทำได้ในบางเรื่องไม่สามารถทำได้ทั้งหมด เช่น การเกษียณอายุในบางอาชีพที่ต้องใช้กำลังในการทำงานก็ไม่สามารถต่ออายุเกินกว่า 60 ปีได้ แต่บางอาชีพอาจจะไปเพิ่มในส่วนของการจ้างงานพิเศษ หรือกลุ่มงานที่ขาดแคลน ฉะนั้น ขออย่าตื่นเต้นตกใจไป
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการปฏิรูปเป็นเรื่องที่สัมฤทธิผลได้ยากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ปรารภไปแล้วว่า ไม่อยากให้คิดแบบนั้น เพราะการปฏิรูปหากไม่นำมาทำเป็นแผนจะทำให้การปฏิบัติขึ้นในอนาคต แต่ต้องยอมรับว่าบางเรื่องสามารถนำไปปฏิบัติได้ บางเรื่องมีปัญหาในการปฏิบัติ และบางเรื่องมีปัญหาแต่ต้องปฏิบัติ แต่การปฏิบัตินั้นจะต้องคำนึงถึงความเห็นต่างในเรื่องนั้นๆ ของแต่ละกลุ่ม เพราะหากยึดแต่แผนโดยไม่สนใจอารมณ์ของคนเห็นต่าง แผนนั้นก็จะเกิดความขัดแย้งไม่สามารถปฏิบัติได้ นอกจากนี้ นายกฯยังได้ขอให้ตระหนักถึงสิ่งที่รัฐบาลขณะนี้ทำ ว่ามีหลายเรื่องที่ปฏิรูปไปแล้ว และหลายเรื่องที่กำลังปฏิรูปอยู่ ก็กำลังวางแผนเพื่อดำเนินการในการปฏิบัติวันข้างหน้า
“คำถามที่ถามนายกฯบ่อยๆ ว่า 4 ปี ปฏิรูปเสร็จไหม มันไม่มีทาง เพราะว่าสังคม สถานการณ์ของโลก สถานการณ์ของบ้านเมือง สถานการณ์ของแต่ละภูมิภาค เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ต้องมีการปฏิรูปตลอดเวลา ซึ่งเรื่องที่ปฏิรูปหลายอย่างที่ภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาครัฐก็มีส่วน เช่น เรื่องของการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งไม่ผิดกฎหมายก็มี แต่เรือประมงนั้นเยอะกว่าจำนวนทรัพยากรที่มีอยู่ เราก็จำเป็นที่จะต้องลดจำนวนเรือลง ซึ่งมีความขัดแย้งในช่วงต้น ทั้งแรงงานและผู้ประกอบการแต่หลังจากได้ทำความเข้าใจและสื่อมวลชนช่วยกันเสนอข้อมูลความจำเป็นที่สอดคล้องกับกติกาโลกอย่างไร ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ฉะนั้น จะเห็นได้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่การปฏิรูปจะไม่สำเร็จ แต่เราต้องเข้าใจว่าในช่วงที่ผ่านมามีการปฏิรูปแล้วหลายอย่างตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามา ทั้ง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก การประมง การแก้ไขปัญหาไอเคโอ เรื่องของผังเมือง เรื่องของเขตเศรษฐกิจพิเศษ เรื่องของการประกอบกิจการโรงงานประเภทต่างๆ ที่ได้ใบอนุญาตลดน้อยลง การแก้ไขหนี้นอกระบบ เป็นต้น แต่ในอนาคตจะมีแผนแบบนี้ทยอยออกมาจากแผนในราชกิจจานุเบกษาทั้ง 11 ด้าน หน่วยงานราชการจะเริ่มหยิบยกมาว่าอะไรทำได้ทำเลย อะไรทำได้ภายใน 6 เดือน 8 เดือน อะไรทำไม่ได้มีเหตุผลอย่างไรก็ว่ากันไป เพราะฉะนั้นนายกฯก็หวังว่าสื่อมวลชนจะช่วยกันทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ว่าอย่าท้อแท้ตามคำวิพากษ์วิจารณ์ของบางท่านบางฝ่ายที่คิดว่าการปฏิรูปจะไม่สำเร็จหรือเป็นเรื่องยากเกินไป มันไม่เป็นแบบนั้น” พล.ท.สรรเสริญกล่าว
