ทบ.โต้เหตุยังไม่เปิดชื่อ6นายทหาร รุมซ้อมพลทหาร ขออย่าห่วงทุกอย่างอยู่ในกระบวนการ

ทบ.ยันไม่ปกป้อง 6 ทหาร ซ้อมพลทหารใต้เสียชีวิต พร้อมสั่งจำขังแล้ว เผย “ผบ.ทบ.” สั่ง “มทภ.4 “ตรวจสอบ หากพบผิดอาญา-แพ่ง ไม่ปกป้อง ส่งดำเนินดคี ชี้ยังไม่เปิดชื่อเพราะบางคนอาจไม่ได้มีพฤติกรรมร่วม

เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่กองบัญชาการทหารบก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ที่มี พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมว่า พล.อ.ธีรชัยได้กล่าวถึงการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจำการในขณะนี้ว่าให้ดำเนินการให้โปร่งใส ถูกต้อง อย่าให้มีการทุจริต หรือร้องเรียน ส่วนในช่วงที่รับทหารใหม่เข้ามาก็ต้องมีการดูแลให้ครอบคลุมทุกด้าน ให้เหมาะสม พร้อมกำชับให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับปฏิบัติตามมาตรฐานการดูแลทหาร ตามที่กองทัพบกกำหนดไว้

พ.อ.วินธัยกล่าวถึงกรณีที่กองทัพบกไม่เปิดเผยชื่อ 6 ทหารที่ร่วมกระทำความผิดลงโทษวินัย พลทหาร ทรงธรรม หมุดหมัด สังกัดค่ายพยัคฆ์ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 152 (ร.152 พัน 1) อ.บันนังสตา จ.ยะลา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมาว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ และไม่ได้มีการปกปิด เพราะพฤติกรรมของแต่ละบุคคลในกลุ่มนี้มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างกัน ต้องดูว่ามีเจตนาของแต่ละบุคคลที่อยู่ในเกิดเหตุด้วย และเมื่อกระบวนการดำเนินไปได้ในระดับหนึ่ง ก็จะเปิดเผยชื่อได้ ยืนยันว่ากองทัพบกจะไม่ปัดความรับผิดชอบ โดย ผบ.ทบ.ได้ติดตามข่าวสาร และสั่งการโดยตรงกับ พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจะมีการส่งดำเนินคดีอาญา 6 ทหารเพราะพฤติการณ์ของผู้กระทำผิดเข้าข่ายพยายามฆ่าหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางหน่วยได้พิจารณาอยู่แล้ว ทั้งนี้ กองทัพบกคงไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบไป แต่จะดำเนินการอย่างถึงที่สุด ยืนยันว่ากองทัพบกไม่ปกป้อง เพราะไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำไปยังผู้บังคับหน่วย และคาดโทษกับผู้กระทำผิดไว้แล้ว โดยกรณีที่เกิดขึ้นนอกจากความผิดด้านวินัยทหารแล้ว หากพบว่าผิดทางอาญาก็ต้องดำเนินการ

“หลังเกิดเหตุทางหน่วยสูงสุดได้ดำเนินการทันทีไปแล้ว แต่ในขั้นตอนทางกระบวนการยุติธรรมนั้น มีห้วงระยะเวลาดำเนินการ ไม่ได้เพิกเฉยหรือละเลย เมื่อเกิดเหตุก็ได้สอบสวนทหารที่ก่อเหตุแล้ว ในทางวินัยได้สรุปว่ามีความผิด และดำเนินการลงโทษทางวินัยแล้วตั้งแต่วันแรก เพราะอยู่ในอำนาจของผู้บังคับหน่วย ซึ่งได้จำขังแล้วทั้ง 6 คน โดยช่วงนี้เป็นการพิจารณาดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา และทางแพ่ง อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวผู้บังคับกองพันต้องรับผิดชอบหรือไม่นั้น ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการทั้งหมด และขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการสอบสวน” โฆษกกองทัพบกกล่าว และว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นสัดส่วนที่น้อย แต่กองทัพบกได้ดูแลโดยตลอดอยู่แล้ว เชื่อว่าในหน่วยหลักๆ ก็พยายามทำอย่างดีที่สุด ไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น และไม่อยากให้เกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อการเกณฑ์ทหารด้วย

ADVERTISMENT