‘วรวัจน์’ บอกเลือกตั้งครั้งนี้ ปชช.จำนวนมากจะให้บทเรียนสุเทพ แนะ รบ.ปรับ ‘ดอน’ ออก

‘วรวัจน์’ ชี้อยู่ที่จิตสำนึกของคนทำงานการเมือง หลัง ‘สุเทพ’ เข้าร่วมพรรค รปช. เชื่อ ปชช.จะสอนบทเรียนให้คนกลุ่มนี้ ส่วนปม ‘ดอน’ ขาดคุณสมบัติ ควรปรับ ครม.ไว้ก่อน ไม่ควรดึงไว้ เพราะความไม่ไว้วางใจของ ปชช.เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

วันที่ 4 มิถุนายน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิ กปปส. เข้าร่วมกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ประกาศจะไม่ยืนเบื้องหลังแต่จะเดินเคียงข้างประชาชน แต่ยืนยันจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ว่า ต้องขอบอกว่าไม่ใช่เพียงกรณีของนายสุเทพคนเดียว เรื่องแบบนี้ตนถือว่าเป็นสำนึกของคนที่ทำงานการเมือง วันนี้ประชาชนเราเห็นแล้วว่าตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมาเราเดือดร้อนขนาดไหนเพราะการบริหารงานของทหารชุดนี้ พวกเขาไม่สามารถเข้ามาแก้ปัญหาของประเทศได้ ซึ่งก็ต้องถือเป็นความผิดพลาดที่ประชาชนไปไว้วางใจนายสุเทพ ซึ่งหากดูลงไปจริงๆ แล้วพวกเขาก็ทำงานคู่กัน ทุกคนเห็นภาพนี้กันหมด และไม่มีประชาชนคนไหนอยากให้อยู่ต่อเลย ถึงแม้เขาจะระบุว่าจะเข้าสู่ระบบเลือกตั้ง แต่ก็ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ในความรู้สึกของเราในฐานะนักการเมืองเห็นว่าของแบบนี้อยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละคนที่จะคิดได้ว่าควรจะทำอะไรให้ประชาชน ซึ่งเชื่อว่าประชาชนไม่อยากให้ใครไปผลักดันให้ คสช.อยู่ต่อ อาจจะไม่ใช้คำว่าผลักดัน คสช.อยู่ต่อแต่ก็เป็นการผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ อยู่ต่อ หรือบริหารประเทศอีก

เมื่อถามว่า ตัวนายสุเทพก็ระบุว่าไม่อาจตอบได้แล้วว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ให้อยู่ต่อ เพราะวันนี้ก้าวสู่พรรคการเมืองแล้ว นายวรวัจน์กล่าวว่า ตรงนี้ก็อยู่ที่ประชาชนแล้วว่าประชาชนเลือกจะเชื่อคนเหล่านี้หรือไม่ จะเชื่อนักการเมืองที่มีพฤติกรรมแบบนี้หรือเปล่า เพราะยิ่งทำออกมาแบบนี้ประชาชนก็ยิ่งได้เห็น และตนอยากเชื่อด้วยว่าครั้งนี้ประชาชนจะสอนบทเรียนให้คนกลุ่มนี้ และเชื่อว่าครั้งนี้คนจะออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเพื่อสอนบทเรียนให้กับคนเหล่านี้ว่าคนไทยไม่ใช่คนที่ยอมถูกหลอกตลอดเวลา

เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.มีมติว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากคู่สมรสถือหุ้นเกินร้อยละ 5 ว่าจริงๆ เมื่อมีการชี้ชัดขนาดนี้แล้วควรจะมีการปรับออกไว้ก่อน ไม่ควรดึงเวลาไว้ เพราะไม่ได้เป็นประโยชน์ จากวันนี้ความไม่ไว้วางใจของประชาชนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะต้องส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน แต่ไม่ว่าศาลจะตัดสินออกมาในลักษณะใดก็ไม่สง่างามแล้ว เพราะเกิดความผิดพลาดขึ้นแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่คิดว่าเรื่องนี้มีนัยยะทางการเมืองแต่อย่างใด และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.เองก็ดำเนินการตรวจสอบทุกเรื่องตามสไตล์ของเขาอยู่แล้ว ทุกคนมีโอกาสถูกตรวจสอบได้หมด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image