มีความจำเป็นที่ “พรรคเพื่อไทย” จะต้องออกมา “ปกป้อง” ตนเอง อย่างจริงจัง ต่อกรณีที่ “กลุ่มสามมิตร” กำลังเปิดปฏิบัติการ “ดูด” อย่างแน่วแน่ ไม่ลดราวาศอก
หากมี “เสียง” ก็ต้องเปิด “เสียง” หากมี “ภาพ” ก็ต้องเปิดภาพให้ปรากฏออกมา
จะทำเพียงโหวกๆเหวกๆในเชิงขู่คงไม่ได้อีกแล้ว
และจะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ระดับ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ออกมาต้านยันอยู่หน้าป้อมค่าย ไม่น่าจะเพียงพอ บรรดาคนที่คิด ว่าตนเองเป็น”เพื่อไทย”อย่างแท้จริงจำเป็นต้องออกมา
เพราะว่าการดูดจะไม่จำกัดเพียงที่”จังหวัดเลย”เท่านั้นหากเด่นชัดว่ารุกคืบไปในพื้นที่”จังหวัดนครราชสีมา”แล้ว
นี่คือ”สถานการณ์”ที่เหมาะสมที่สุดที่จะต้องออกมา
มองในสภาพความเป็นจริง พรรคเพื่อไทยมีเหตุผลอย่างเพียงพอที่ จะออกมาปกป้องตนเอง
ปกป้องบนพื้นฐานของ “รัฐธรรมนูญ”
ปกป้องบนพื้นฐานของ “พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง”
หากการออกมาปกป้องตนเองของพรรคเพื่อไทยยังถูกทางคสช.แจ้งความร้องทุกข์ว่าผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ก็จะกลายเป็นเรื่องตลกร้ายขึ้นมาทันที
เพราะว่าผู้ที่ “เสียหาย” คือพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ “คสช.”
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ว่าจะเป็นทหาร ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ จะต้องเป็นฝ่ายออกมาให้ความคุ้มครองพรรคเพื่อไทย มิใช่อ้าขาผวาปีกให้กับกลุ่มที่เดินสาย “ดูด”
คำกล่าวที่ติดปาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ว่า “ความกลัวทำให้เสื่อม”
กำลังท้าทาย”มโนธรรม”ของ”เพื่อไทย”อย่างแหลมคม
นี่มิได้เป็นเรื่องของการร้องโหวกๆเหวกๆ หากแต่เป็นเรื่องที่กำลังถูกบั่นทอนอย่างร้ายแรงที่สุดในทางการเมือง
ความเป็นจริงที่สัมผัสได้ ณ เบื้องหน้าพรรคเพื่อไทยก็คือ ปฏิบัติการ “ดูด”โดยเสรีกำลังเกิดขึ้น
มีตัวละคร เผยตัวตนออกมาอย่างเด่นชัด
คนเหล่านั้นเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และมีบางส่วนเคยถูกยึดอำนาจมาด้วยกันระหว่างอยู่พรรคเพื่อไทย
หากพรรคเพื่อไทยไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจก็แปลกอย่างยิ่ง