ไม่ว่ากรณีเรือล่ม ทัวร์จีน ล้มตายเรือนร้อย ไม่ว่ากรณีนั่งกะพริบตาภายใต้วงล้อมของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีระหว่างการส่งมอบกุญแจห้องพักโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง
กำลังจะกลายเป็น “หลุมอากาศ” ขนาดใหญ่ให้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เหมือนกับกรณี”นาฬิกา”หรู ณ ทำเนียบรัฐบาล
คสช.และรัฐบาลอาจสามารถแผ่ “รังสีอำมหิต” มิให้สื่อหลักไม่ว่าหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ตีพิมพ์หรือถ่ายทอด “ภาพ” และ “เสียง” เหล่านั้นให้ปรากฏ
แต่กับ “สื่อรอง” อย่างโซเชียล มีเดีย และกระแส “กอสซิป” ซุบซิบในทางสังคม
ก็ยากในระดับ “ยากส์”
ถามว่าปัญหาอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุ “เรือล่ม” ที่กำลังกลายเป็นประเด็นกระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องออกมากล่าวคำขอโทษเกิดขึ้นได้อย่างไร
1 มาจาก”ความเห็น”ที่ทางการจีนเสนอต่อ”รัฐบาล”
1 มาจาก”ปฏิกิริยา”อันดำรงอยู่ภายใน”โซเชียลมีเดีย”ของจีน
มิใช่เรือนแสน หากแต่เป็นรือนล้านและกลายเป็น”ร้อยล้าน”สะท้อนความไม่พอใจ
หากไม่รุนแรงก็คงไม่มีการ”ขอโทษ”อย่างรวดเร็ว
นี่ย่อมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะว่าเนื่องแต่บาง “คำพูด” ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ยิ่งอาการ”กะพริบตา”ยิ่งมากด้วยความอ่อนไหว
อ่อนไหวเพราะมิได้เป็นเรื่องส่วนตัว ณ บ้านพัก หากแต่อยู่ในงานพิธีของรัฐบาล แวดล้อมด้วย “นายกรัฐมนตรี”และ”รัฐมนตรี”ที่เกี่ยวข้อง
“ภาษากาย” อันมาจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่อยู่ข้างๆ นั่นแหละมีนัยสำคัญ
นัยสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าการยกแขนที่มี “แหวน” ขึ้นบังแดด
แม้ว่าสื่อ”โซเชียล มีเดีย”จะเป็นสื่อกระแสรองเมื่อเทียบกับสื่อกระแสหลักอย่างหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ แต่ก็ปรากฏด้วย”ความเร็ว”สูงอย่างยิ่งยวด
ขณะเดียวกัน ก็แผ่ปริมณฑลไปอย่างกว้างขวางโดยไม่ต้องอาศัยแผง เพียงแต่มี”สมาร์ทโฟน”ก็แพร่กระจายไปยิ่งกว่า”แสง”
หาก”บริหารจัดการ”ต่อ “ความเสี่ยง”นี้ไม่ดีก็อาจ”เป็นเรื่อง”
