จับตาท่าที ‘บิ๊กตู่’ สนใจงานการเมือง

หมายเหตุนักวิชาการและนักธุรกิจให้ความเห็น กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตทางการเมืองว่าสนใจงานการเมือง ขอเวลาตัดสินใจอีกครั้งว่าจะสนับสนุนกลุ่มไหน รวมทั้งกระแสข่าวที่ชัดเจนกรณีบุคคลในคณะรัฐมนตรีจะมาดำรงตำแหน่งในพรรคพลังประชารัฐ อาทิ นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เป็นเลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นโฆษกพรรค


 

ประกิต สิริวัฒนเกตุ
ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

เส้นทางการเลือกตั้งที่ชัดเจนจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดโดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องกว่า 5.5 แสนล้านบาท เป็นปริมาณเงินไหลออกที่มากอันดับต้นๆ เมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่ เหตุผลหลักคือปัญหาการเมืองในประเทศ แต่ขณะนี้เชื่อว่านักลงทุนจะกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยมากขึ้นจากปัจจัยเรื่องความชัดเจนของการเลือกตั้ง ประมาณการว่าในช่วง 6 เดือนหลังจากนี้จะมีเม็ดเงินเข้าประเทศประมาณ 50,000-100,000 ล้านบาท

Advertisement

กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สนใจการเมืองนั้นมองว่าเป็นเรื่องดี จะทำให้นโยบายของรัฐบาลถูกสานต่อและทำได้ต่อเนื่อง กรณีเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์จะเข้ามาเป็นนายกฯอีก นักลงทุนไม่ได้กังวล มีความเป็นไปได้ที่พรรคการเมืองจะเสนอชื่อเป็นนายกฯ ส่วนกระแสข่าวนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม จะนั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ จะเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐนั้น ไม่มีผลกับการเลือกนายกฯ เพราะหัวหน้าพรรคเสนอรายชื่อนายกฯได้อยู่แล้ว ภาพรัฐบาลใหม่จะเป็นการผสมของทุกพรรค พรรคพลังประชารัฐจึงมีโอกาสเป็นรัฐบาลได้เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครมีโอกาสรวบรวมคะแนนเสียงมากกว่ากัน โดยเฉพาะนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หรือโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (เอสอีซี) ไม่น่าจะขาดตอน ตาม พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2560 และจัดตั้งคณะกรรมยุทธศาสตร์แห่งชาติ มีหน้าที่ในการติดตามตรวจสอบรัฐบาลให้ดำเนินนโยบายไปตามยุทธศาสตร์ที่วางเอาไว้

อย่างไรก็ตาม มองในช่วงหาเสียงปลายปีจะเห็นรัฐบาลเข็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รัฐบาลก็ต้องทำคะแนนเช่นเดียวกัน ขณะนี้เริ่มเห็นนโยบายต่างๆ แล้ว เช่น สมาคมธนาคารมีนโยบายลดเงินต้นให้กลุ่มลูกหนี้เกษตรกร 50% ในเกณฑ์ไม่เกิน 2.5 ล้านบาท

จากสถิติการเลือกตั้งในอดีต 4 จาก 6 ครั้งหลังสุด (ไม่นับการเลือกตั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นโมฆะ) พบว่า ดัชนีตลาดหุ้นมีการปรับเพิ่มขึ้นล่วงหน้าก่อนเลือกตั้ง 6 เดือน เฉลี่ย 1.8% และปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากการเลือกตั้ง 1 เดือนเฉลี่ย 5.1% หากแยกไปดูการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหารในปี 2550 พบว่าดัชนีตลาดหุ้นจะบวกล่วงหน้า 6 เดือนถึง 5.4% และบวกต่อเนื่องหลังการเลือกตั้งอีก 1 สัปดาห์ หรือประมาณ 5.5% อย่างไรก็ตาม การนับคะแนนที่เปลี่ยนไปจากเดิม จะทำให้ผลการเลือกตั้งไม่เหมือน 6 ครั้งที่ผ่านมา เพราะภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 ได้เปลี่ยนระบบเลือกตั้งเป็นแบบจัดสรรปันส่วนผสม การจัดตั้งรัฐบาลจึงมีแนวโน้มเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค เพิ่มโอกาสให้กับบุคคลที่พรรคพลังประชารัฐเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีมากขึ้น

Advertisement

 

อนุสรณ์ ธรรมใจ
อดีตกรรมการและผู้อำนวยการ
สำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี

โดยปกติก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง รัฐบาลที่ทำหน้าที่บริหารประเทศจะมีสถานะเป็นรัฐบาลรักษาการ ส่วนรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่ในการบริหารเรื่องที่จำเป็นในระยะเวลานั้นเท่านั้น จะไม่ตัดสินใจในเรื่องที่มีความสำคัญและมีภาระผูกพันไม่ยังรัฐบาลชุดต่อไป แต่เนื่องจากกรณีของรัฐบาลชุดนี้ เป็นรัฐบาลมาจากการรัฐประหาร หากคณะรัฐประหารไม่สืบทอดอำนาจหรือไม่ต้องการทำงานการเมืองต่อก็จะมีสถานะเป็นคนกลาง เพราะไม่ได้ลงไปเป็นผู้เล่น

แต่กรณีที่เกิดขึ้นตอนนี้คือรัฐมนตรีบางท่านมีความต้องการที่จะทำงานด้านการเมืองต่อ ถ้าจะให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันการเลือกตั้ง ในความคิดเห็นของผมควรจะลาออกจากตำแหน่ง แล้วให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน เนื่องจากตัวท่านอยู่ในสถานะที่จะเข้าไปแข่งขัน และมาจากระบอบรัฐประหารไม่ได้มาจากระบอบการเลือกตั้ง ระบอบปกติเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการจะต้องมีการจำกัดสิทธิบางอย่าง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันเลือกตั้ง แต่กรณีนี้ไม่ใช่กรณีปกติ คือเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารและต้องการทำงานการเมืองต่อ ดังนั้นควรจะลาออกเพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ใจ

หากไม่ลาออกแล้วมีการดำเนินนโยบายใช้งบประมาณเรียกคะแนนนิยม คิดว่าการทำเช่นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้การดำเนินนโยบายบิดเบือนไปจากหลักการที่ดีของการดำเนินนโยบายสาธารณะ การเป็นนักการเมืองเเล้วหาเสียงกับประชาชนในเรื่องนโยบายเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะนักการเมืองทุกคนก็ต้องการคะแนนนิยม แต่ในหลักการของการดำเนินนโยบายที่ดีต้องดูผลระยะยาว ดูเรื่องวินัยการเงินการคลังด้วย แต่พอถูกกดดันด้วยความต้องการที่จะชนะการเลือกตั้งหรือต้องการที่จะได้เปรียบทางการเมืองจะทำให้นโยบายบิดเบือนไปจากหลักการที่ดี

ผมมองว่า มีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลนี้ โดยเฉพาะผู้ที่จะทำงานการเมืองต่อ มีความโน้มเอียงที่จะออกมาตรการหรือนโยบายที่มีลักษณะที่เป็นนโยบายหาเสียงหรือนโยบายที่เน้นประชานิยมโดยสนใจกรอบของการดำเนินนโยบายสาธารณะที่ดีน้อยลง อาจจะส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เพราะมันจะมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปมาก แต่ในระยะกลางหรือระยะยาวเป็นนโยบายที่ไม่ได้ยึดหลักการการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่ดีและไม่ได้อยู่ในกรอบของความยั่งยืน นโยบายเหล่านี้อาจจะเป็นนโยบายที่สร้างปัญหาได้ เช่น เอาเงินไปเร่งแจก หรือดำเนินนโยบายเพื่อให้ได้คะแนนนิยมแล้วทำให้เกิดหนี้เสียจำนวนมากในธนาคารของรัฐ หรือเร่งรัดการใช้จ่ายโดยไม่มีการกำกับดูแลที่ดี

ส่วนของผลงานทางเศรษฐกิจเป็นเพียงผลงานหนึ่งของรัฐบาลทั้งหมด ปัญหาใหญ่เรื่องเศรษฐกิจในขณะนี้ คือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมันไม่กระจายตัว เลยอาจจะยังเป็นข้อจำกัดของทีมเศรษฐกิจที่จะได้คะแนนนิยมจากประชาชนส่วนใหญ่ แม้ว่าเศรษฐกิจภาพรวมในแง่ของตัวเลขมันจะดีขึ้นก็ตาม อีกอย่างคือการบริหารงานภายใต้ระบบที่อาจจะไม่ได้มีการมีส่วนร่วมมากนักก็เป็นอีกจุดอ่อนที่อาจจะทำให้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร แต่การที่เสนอตัวเข้ามาแข่งขันตามระบบเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ต้องทำงานหนักในแง่ของการชี้แจงและการแข่งขันเรื่องนโยบายที่จะมีนโยบายที่จะให้ประชาชนได้ประโยชน์ ประชาชนจะได้มีทางเลือกและสามารถพิจารณาได้ว่าเขาชอบแนวทางหรือนโยบายไหน ที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

 

ดร.ยุทธพร อิสรชัย
รองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มสธ.

ผมคิดว่าในแง่ของความสนใจเรื่องการเมืองต้องบอกว่าเป็นสิทธิของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะคนไทยทุกคนมีสิทธิที่จะสนใจได้ ถ้ามีคุณสมบัติที่สามารถลงรับสมัครการเลือกตั้งก็สามารถลงสมัครได้เช่นเดียวกัน แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าถ้านายกฯอยู่ในอำนาจรัฐและเกี่ยวข้องกับการใช้กลไกของรัฐ สิ่งเหล่านี้ต้องพึงระมัดระวังที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการลงรับสมัครเลือกตั้ง จะเป็นประเด็นถูกการวิพากษ์วิจารณ์ได้ เชื่อว่าพรรคการเมืองและผู้สมัครต่างๆ ก็เฝ้าจับตาอยู่เช่นเดียวกัน

ถ้าไม่ระมัดระวังในเรื่องของการเเสดงบทบาทที่ทับซ้อนกันหรือใช้อำนาจรัฐต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในระยะยาว อาจส่งผลต่อความชอบธรรมทางการเมืองของตัวท่านนายกฯทั้งก่อนการเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้ง

ที่ผ่านมาสังคมจะคาดการณ์กันได้พอสมควรว่านายกฯจะลงเล่นการเมือง ในลักษณะของการเป็นนายกฯที่อยู่ 1 ใน 3 ของพรรคการเมืองที่ถูกเสนอชื่อ หรือเป็นนายกฯคนนอกที่ไม่ปรากฏในบัญชีของพรรคใดเลยก็ได้ สังคมก็พอคาดหมายได้พอสมควร ถ้าท่านแสดงความชัดเจนจะทำให้มีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ในระยะยาวถ้าท่านมีปัญหาเรื่องความชอบธรรมทางการเมืองคือไม่ได้รับการยอมรับ ตรงนี้จะกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจระยะยาว

สำหรับด้านเศรษฐกิจในเวลานี้เศรษฐกิจค่อนข้างกระจุกตัวกับกลุ่มทุนขนาดใหญ่เพียงไม่กี่กลุ่ม แต่ในแง่ของประชาชนทั่วไปจะรู้สึกถึงความฝืดเคืองทางเศรษฐกิจ แม้ตัวเลขทางเศรษฐกิจระดับมหภาคจะดูดี แต่ตัวเลขเหล่านั้นไม่ได้ส่งถ่ายทอดสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง ประชาชนจึงรู้สึกว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก แต่ปัจจัยสำคัญในการเลือกตั้งมันมากกว่าแค่ภาพลักษณ์ของเศรษฐกิจเท่านั้น มีทั้งเรื่องของกลไกภาครัฐเป็นปัจจัยตัวแปรไม่ได้ตายตัว

 

กลินท์ สารสิน
ประธานกรรมการหอการค้าไทย
และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศอย่างไม่เป็นทางการ วางกรอบการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 มีความชัดเจนมากขึ้นว่าการเมืองไทยจะไปในทิศทางใด เกิดการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐที่อาจจะมีนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เป็นเลขาธิการพรรค ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวว่าสนใจงานการเมืองด้วยนั้น ถือว่ามีความชัดเจนแล้วส่วนหนึ่ง หาก พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งการเมืองต่อ คาดว่าจะส่งผลดี เพราะจะทราบว่าจุดใดดีอยู่แล้ว หรือจุดใดที่ยังมีปัญหาและต้องดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ารัฐบาลใดจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ หลังจากนี้เอกชนคาดหวังให้มีการดำเนินนโยบายของภาครัฐที่มีความต่อเนื่องจากนโยบายที่เคยดำเนินการไว้ ขณะนี้ความเชื่อมั่นของเอกชนมีทิศทางจะปรับดีขึ้นตามความชัดเจนทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ สัปดาห์นี้ได้มีคณะจากหอการค้าสหรัฐเดินทางมาเยือนไทย พบว่าสหรัฐมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีการลงทุนอยู่แล้ว

 

เกรียงไกร เธียรนุกุล
รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

ประเด็นที่นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เตรียมเปิดตัวเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หากเป็นเช่นนั้นจริง ต้องขอแสดงความยินดีล่วงหน้าในตำแหน่งใหม่ทางการเมืองที่กำลังจะได้รับ ในระยะต่อไปเมื่อเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง เป็นธรรมดาที่จะต้องมีพรรคการเมืองหรือสังกัดที่แน่ชัดเพื่อสะดวกในการหาเสียง เตรียมเข้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้บริหารประเทศ ทางด้านของการเลือกตั้ง
ส่วนเรื่องของความได้เปรียบเสียเปรียบ ถ้าเป็นมุมการเมือง ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าคืออะไร แต่ถ้าในมุมมองผมคิดว่านายอุตตมเป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จัก เพราะเป็น รมว.อุตสาหกรรม ความได้เปรียบคือในช่วง 3-4 ปีนี้ ชื่อเป็นที่รู้จักมาก ในเรื่องของผลงานด้านอุตสาหกรรม

ขณะนี้ จะเห็นได้ชัดว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจัดทำโครงการไว้มากมาย อาทิ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มี 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี และการขับเคลื่อนนโยบายการส่งเสริมของภาครัฐต่างๆ เป็นต้น ทราบว่าได้เดินหน้าโครงการเหล่านี้ไปบ้างแล้ว เข้าใจว่าต้องใช้เวลา จึงส่งผลให้รัฐบาลต้องการเข้ามาผลักดันโครงการที่ได้เริ่มต้นไว้อย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุผลสำเร็จ อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ต้องการกลับเข้ามาบริหารงาน โดยผ่านช่องทางการทำประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้งต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image