| ผู้เขียน | การ์ตอง |
|---|
ชัดเจนแล้วว่า “การเลือกตั้งทั่วไป” หลังรัฐประหารครั้งล่าสุดที่กินเวลาพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไปอีก 5 ปี จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562
แม้จะเป็นที่รับรู้กันว่า “รัฐบาลหลังเลือกตั้ง” มีข้อจำกัดมากมายที่เป็นอุปสรรคต่อความหมายว่า “รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน” อันเป็นหลักการสากลของประชาธิปไตย เนื่องจากรัฐประหารครั้งนี้ วางกรอบไว้แน่นหนา สุดสูง ดั่งกำแพงคุกจองจำสิทธิเท่าเทียมของประชาชนไว้หลายชั้น ด้วยกติกาโครงสร้างอำนาจที่เอื้อบทบาทให้คนบางกลุ่มบางพวกอย่างโจ่งแจ้ง
แต่เมื่อการเลือกตั้งเป็นหนทางเดียวที่พอจะทำให้เห็นโอกาสของตัวแทนประชาชนจะเข้าไปมีบทบาทบ้าง นักการเมืองและพรรคการเมืองฟากที่ยืนอยู่ข้างอำนาจประชาชนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากใช้โอกาสนี้อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความหวังว่า หากได้รับชัยชนะ สามารถเข้าไปแก้ไขเยียวยาให้อำนาจประชาชนคลี่คลายจากอาการโคม่าได้บ้างในอนาคต แม้จะเห็นอยู่ว่ายากเย็นแค่ไหนก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เพราะการเลือกตั้งไม่ได้มีแค่พรรคที่เดินหน้าถางทางประชาธิปไตยเท่านั้น แต่ยังมีพรรคที่อุดมการณ์แตกต่าง ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือสานต่ออำนาจของคนบางกลุ่มบางพวกเข้ามาเป็นคู่ต่อสู้ในเวทีอยู่ด้วย
“พรรคพลังประชารัฐ” ที่ปลุกขวัญสมาชิกด้วยคำที่สร้างความเชื่อมั่นในความได้เปรียบอย่างสูงยิ่งว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา”
เป็นพรรคที่รับทราบกันอยู่โดยทั่วไปว่า ตั้งขึ้นเพื่อเป็นฐานส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
ทุกอย่างควรจะราบรื่น เพราะกลไกและพลังสนับสนุนเท่าที่อำนาจจะจัดการได้ล้วนแล้วแต่เอื้อให้ “ปิดทางแพ้”
ทว่าความเป็นไปกลับสะท้อนถึงความไม่แน่นอนบางอย่าง
วันเลือกตั้งชัดเจนแล้ว กฎหมายต่างๆ พร้อม เครือข่ายทั้งหลายรับรู้ภารกิจ
แต่จนถึงวันนี้ “บุคคลที่พรรคพลังประชาชนจะระบุให้เป็นผู้ได้รับการเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค” ยังไม่ชัดเจน
ซ้ำยิ่งเนิ่นนานไปยิ่งสร้างความสงสัยว่า จะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างที่เจตนารมณ์ของการตั้งพรรคกำหนดไว้แต่เดิมหรือไม่
ก่อนหน้านั้น ประเด็นของความไม่แน่นอนอยู่ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” จะยอมให้ชื่อของตัวไปอยู่ในบัญชีของพรรคหรือไม่
แต่ถึงวันนี้ เหมือนว่าเรื่องราวที่เล่าลือกันมีเรื่องแบบว่า “พรรคพลังประชารัฐ” ก็คิดหนักอยู่ว่า “จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่”
มีข่าวว่าต่างฝ่ายต่างประเมินผลได้ผลเสีย
“พล.อ.ประยุทธ์” และ “ทีมกุนซือ” ประเมิน พรรคพลังประชารัฐ ด้วยคำถามของมวลชนที่เคยสนับสนุน เกี่ยวกับ “ปฏิรูปการเมือง”
ขณะที่ “พรรคพลังประชารัฐ” ประเมิน “พล.อ.ประยุทธ์” ด้วยกระแสประชาชนจากผลงาน 5 ปีที่ผ่านมา
เหลืออีกไม่กี่วันแล้วที่พรรคการเมืองทุกพรรคจะต้องประกาศรายชื่อผู้ที่พรรคเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี
คำตอบของ “พรรคพลังประชารัฐ” และ “พล.อ.ประยุทธ์” จึงเป็นเรื่องที่คนในแวดวงการเมืองล้างหูรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
