รายงาน : ปัจจัย การเมือง สภาวะ ขาลง ‘คสช.’ หลัง 24 มีนาคม

หาก คสช.ยังมากด้วยอำนาจ ยังมากด้วยความนิยม 52 เสียงจากพรรคประชาธิปัตย์จะกล้าหือหรือ 51 เสียงจากพรรคภูมิใจไทยจะกล้ายื้อหรือ

แม้กระทั่ง 10 เสียงจากพรรคชาติไทยพัฒนายังไม่เออออห่อหมก

เทียบกับอำนาจที่ คสช.ได้มานับจากเดือนพฤษภาคม 2557 ต้องยอมรับว่า คสช.ถูกลูบคมอย่างต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคม 2562

นี่เป็นผลจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม

Advertisement

ทั้งๆ ที่ “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา” แท้ๆ แต่พรรคพลังประชารัฐก็ได้มาเพียง 115 เสียง

ขณะที่พรรคเพื่อไทยได้ 136 พรรคอนาคตใหม่ได้ 80

การก่อรูปของพันธมิตรแห่งแนวร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจที่มี 245 เสียงอยู่ในมือจึงได้บังเกิดและส่งผลสะเทือนอย่างลึกซึ้ง กว้างขวาง

Advertisement

ทำให้ภาพ “ขาลง” ของ คสช.มีความเด่นชัดเป็น “รูปธรรม”

สถานการณ์ “ขาลง” ของ คสช.เป็นผลมาจากปัจจัย 2 เงื่อนไขที่มีผลสะเทือนอย่างเป็นเอกภาพ 1 ปัจจัยของ คสช.เอง 1 ปัจจัยจากภายนอก

เวลาเกือบ 5 ปี ชาวบ้านรู้เช่นเห็นชาติ

รู้เช่นเห็นชาติว่าบทเพลง “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา” อันกระหึ่มในห้วงหลังรัฐประหาร

ที่เป็นจริงดำเนินไปอย่างไร

เช่นนี้เองพรรคพลังประชารัฐจึงได้มาเพียง 115 ทั้งๆ ที่ให้อำนาจรัฐ อำนาจเงินอย่างมหาศาล เช่นนี้เองพรรครวมพลังประชาชาติไทยจึงได้มาแค่ 5

เช่นนี้เองพรรคประชาชนปฏิรูปจึงได้มาแค่ 4.5 หมื่นคะแนน ต่ำกว่าพึงมี

จึงมีความจำเป็นต้องใช้ “อภินิหาร” ทางกฎหมาย ทำคะแนนพรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคเสรีรวมไทย ตกน้ำ

เสกเป่า 11 ส.ส. จาก 11 พรรคการเมือง

ขณะเดียวกัน ภายในเวลา 5 ปีปัจจัยจากภายนอกอันหมายถึง ปัจจัยการเมืองในประเทศ ปัจจัยการเมืองนอกประเทศ ก็มีส่วนอย่างสำคัญ

เห็นได้จากการประท้วงตั้งแต่หลัง “รัฐประหาร”

เห็นได้จากบทบาทของพรรคเพื่อไทยที่มิได้อยู่นิ่งเฉย หากแต่ประสานกับพรรคประชาธิปัตย์ในการวิพากษ์และชี้ให้เห็นธาตุแท้ของ คสช.

เห็นได้จากการเกิดปรากฏการณ์ “คนอยากเลือกตั้ง”

เห็นได้จากการแปรการเคลื่อนไหวจากจุดเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ ภาคประชาสังคมมาเป็น พรรคอนาคตใหม่ พรรคสามัญชน หรือแม้กระทั่งพรรคเกรียน

ผลก็คือ พรรคเพื่อไทยยังกำชัยในการเลือกตั้ง

ผลก็คือ พรรคอนาคตใหม่ได้แจ้งเกิดพร้อมกับ 6.2 กว่าล้านคะแนน และยังใช้ชัยชนะเป็นเหมือนกระดานหกสร้างปรากฏการณ์ทางการเมืองอย่างไม่ขาดสาย

นี่คือปัจจัยที่มีส่วนในการเปิดโปง โจมตี คสช.อย่างมีลักษณะ “กัมมันตะ”

ชัยชนะที่ได้มาแม้จะยังไม่สามารถจัดการกับ คสช.ได้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่ก็เป็นชัยชนะในลักษณะสะสม มีส่วนในการบ่อนเซาะ คสช.อย่างต่อเนื่อง

ชัยชนะเหล่านี้ได้มาเพราะการต่อสู้และยืนหยัด

เป็นการต่อสู้ภายใต้กฎกติกาของรัฐธรรมนูญ เป็นการต่อสู้อย่างสันติภายใต้กฎหมายที่ร่างขึ้นโดย คสช.และเครือข่าย

ส่งผลให้เกิดภาวะ “ขาลง” และขาดอำนาจการต่อรองลงเป็นลำดับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image