บทนำ : ฟื้นประชาธิปไตย

ในวาระครบ 87 ปีของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิ.ย. พ.ศ.2475 มีการแสดงทรรศนะเกี่ยวกับการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทย รวมถึงแสดงถึงข้อห่วงใยต่างๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้ 5 ปี เกิดรัฐประหารในปี 2557 ทำให้ประเทศอยู่ภายใต้รัฐบาลทหาร เพิ่งเกิดการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎกติกาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขว้าง แต่เวลาผ่านไป 3 เดือนแล้ว การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ลุล่วง และยังมีความห่วงกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อระบอบประชาธิปไตยอีก ทำให้ข้อถกเถียงว่าทำอย่างไรจะให้ประชาธิปไตยตั้งมั่นในประเทศไทย เป็นหัวข้อที่มีผู้สนใจมากเป็นพิเศษ

ทรรศนะหนึ่งที่น่าสนใจมาจาก นายอนุสรณ์ ธรรมใจ รองประธานมูลนิธิปรีดี พนมยงค์ เสนอความเห็นว่าด้วย ทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจ มีข้อเสนอ 4 ข้อ โดยสรุปดังนี้ 1.ขอให้รัฐบาลสนับสนุน กม.ยกเลิกคำสั่ง ประกาศ คสช.ทั้งหมดที่ละเมิดประชาธิปไตย ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน 2.ขอให้รัฐสภาตั้งคณะทำงานคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกดำเนินคดีทางการเมืองต่างๆ ในช่วงรัฐบาล คสช. และชดเชยความเสียหายสำหรับบุคคลเหล่านี้

3.ขอให้ช่วยกันหยุด Hate Speech หยุดยั้งการนำเอาสถาบันเบื้องสูงใช้ทางการเมือง 4.สร้างความเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยใช้หลักการของเหตุและผล เสียงข้างมาก การมีส่วนร่วม การเห็นคนเท่าเทียมกัน ยอมรับในความแตกต่าง การเคารพสิทธิของผู้อื่น และรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อพ้นจากการใช้กำลังและความรุนแรงแก้ปัญหา กระทรวงศึกษาธิการต้องทำให้เกิด Civic Education หรือการศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมืองและนำเหตุการณ์ 24 มิ.ย.2475 ให้เยาวชนและอนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาเป็นบทเรียนด้วย

ถือเป็นอีกข้อเสนอที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในห้วงเวลา 10 ปีเศษที่ผ่านมา เกิดการบิดเบือนความรู้และข้อมูลในด้านต่างๆ ผ่านการใช้วาทกรรมที่มีการปลุกปั่นอย่างเป็นระบบและมีเป้าหมาย ทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดเกี่ยวกับประชาธิปไตย จนถึงกับสนับสนุนให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร และเชื่อกันว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาของชาติได้ รัฐสภาโดยเฉพาะ ส.ส.ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง จะต้องแสดงท่าทีและขับเคลื่อน เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์และพัฒนาประชาธิปไตยขึ้นอีกครั้ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image