ผู้เขียน | การ์ตอง |
---|
ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ในแวดวงกฎหมายและการเมือง หากได้สัมผัส ไม่ว่าจะผ่านการเสวนาพูดคุย ฟังบรรยาย หรือติดตามข่าวสาร ก่อนหน้าจะมี “รัฐประหาร” เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ความคิดความเชื่อน่าจะไปในทิศทางเดียวกันคือ ในสมองของ นายวิษณุ เครืองาม อัดแน่นด้วยความรู้ด้านกฎหมาย และสามารถเลือกหยิบขึ้นมาใช้ได้อย่างแม่นยำ ในระดับคลี่คลายทุกข้อสงสัยได้โดยได้รับการยอมรับทั่วไป
ก่อนหน้านั้น เมื่อนายวิษณุพูด ย่อมไม่มีใครที่หากต้องการคำตอบทางกฎหมายอย่างอ้างอิงได้อย่างเชื่อมั่นว่าไม่ผิดพลาดจะไม่ตั้งอกตั้งใจฟังเพื่อให้เกิดความเข้าใจในระดับตรึงอยู่ในความจำ เพื่อหยิบไปใช้งานในภายหลัก
ความเชื่อมั่นต่อการตีความกฎหมายจาก “นายวิษณุ” มีมากถึงเพียงนั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากตลอดมา “นายวิษณุ” พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประสิทธิภาพในการตีความกฎหมายที่มีอยู่ในตัวนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ความแม่นยำในตัวบท ความเชี่ยวชาญในการแยกองค์ประกอบ และภูมิความรู้ที่เกี่ยวข้องในสรรพศาสตร์ทำให้เกิดความเข้าใจใน “เจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างลึกซึ้ง”
เมื่อผสมผสานกับความสามารถในการจาระไนด้วยความเชี่ยวชาญทางภาษาอย่างยิ่งยวด
การอธิบายกฎหมายในทุกเรื่องจึงอิงเข้าหาหลักแห่งความยุติธรรมได้อย่างไร้ข้อกังขา หรืออย่างน้อยพอเป็นแนวให้เข้าใจในหลักการที่เที่ยงธรรมได้เป็นอย่างดี
เป็นความเชื่อมั่นว่า ประเทศชาติอันเป็นที่รักของคนไทยทุกคน มีผู้ที่จะเป็นหลักให้ยึดเหนี่ยวในทางกฎหมายที่สามารถยึดถือได้ด้วยความไว้วางใจ
ทว่าหลังจากที่เข้ามารับหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านกฎหมาย
ความคิดที่วางให้เป็น “หลักแห่งความยุติธรรม” กลับถูกตั้งข้อสงสัยว่าแปรเปลี่ยนไปอยู่ไม่น้อย
ในส่วนของ “องค์ความรู้ ความแม่นยำในข้อกฎหมาย” และ “ความเชี่ยวชาญในการอธิบาย” ไม่ใช่เป็นข้อสงสัยว่ายังมีอยู่หรือไม่
แต่ที่ก่อให้เกิดความกังขาเป็นอย่างสูง และนับวันยิ่งกลายเป็นความเชื่อว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในความเป็น “หลักแห่งความยุติธรรม”
ภาพที่ถูกหยิบยกขึ้นมาแทน คือความสงสัยในเรื่องการตีความกฎหมายในทางที่เอื้อต่อประโยชน์ของการรักษาอำนาจ
เสียงนินทาในเรื่องเบี่ยงเบน หลักการยุติธรรมให้บิดเบี้ยว
ซึ่งไม่ว่าข้อกังขานี้สะท้อนความเป็นจริงหรือไม่
แต่สิ่งที่น่าเสียดายอย่างยิ่งได้เกิดขึ้นแล้ว นั่นคือความเชื่อมั่นว่าประเทศยังมีบุคคลที่มั่นคงต่อ “หลักความยุติธรรม” เกิดความสั่นคลอนขึ้น
เมื่อการอยู่ร่วมกันของสังคมโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นแห่งหนใด
ความเชื่อมั่นว่ายังมี “หลักที่จะอำนวยความยุติธรรมให้สมาชิกของสังคมอย่างเท่าเทียม” มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ประเทศที่ประชาชนเชื่อมั่นร่วมกันไม่ได้ในเรื่องนี้ เป็นสัญญาณที่ไม่ดีอย่างแน่นอน สำหรับการอยู่ร่วมกัน
คนคนหนึ่ง ที่จะมีความรู้ความสามารถสูงจนสร้างความเชื่อมั่นว่าจะเป็นหลักแห่งความยุติธรรมได้ เป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น
และเมื่อเกิดขึ้นเพื่อให้ประชาชนอุ่นใจแล้วต้องมาแปรเปลี่ยนไป
ไม่ว่าจะเหตุใดก็ตาม
นั่นเป็นเหตุของความน่าเสียดายยิ่ง