รายงานหน้า2 : ‘กนกวรรณ วิลาวัลย์’ยิ้มสู้ ท้าพิสูจน์เก้าอี้‘รมช.ศธ.’

หมายเหตุ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงทิศทางและนโยบายในการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย ในส่วนของงานที่ได้รับผิดชอบ

⦁วันแรกที่รู้ว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. รู้สึกอย่างไร
ได้รับแจ้งจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่าจะได้รับโอกาสทำงานด้านการศึกษา ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. ความรู้สึกแรกคือ ดีใจมากที่จะมีโอกาสมาทำงานกระทรวงนี้

⦁หลายคนมองว่า ศธ.เป็นกระทรวงปราบเซียน หนักใจหรือไม่
ทุกปัญหาแก้ไขได้ ต้องมีความตั้งใจ มีความพร้อม ถ้ามีอะไร ลุยไปด้วยความตั้งใจ ด้วยความมุ่งมั่น ถ้าได้รับการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย เชื่อว่าการศึกษาจะเดินหน้าไปได้ แม้หลายคนจะมองว่าไม่มีใครอยากเข้ามาทำงานใน ศธ. แต่ดิฉันกลับภูมิใจและดีใจที่ได้มาอยู่กระทรวงนี้ เพราะการศึกษาถือเป็นรากหญ้า ถ้ารากหญ้าไม่แข็งแรงแล้วประเทศจะพัฒนาอย่างไร

⦁เตรียมตัวอย่างไรก่อนรับตำแหน่ง
โดยปกติผ่านงานเกี่ยวกับเรื่องการศึกษามามากพอสมควร ได้รับฟังสภาพปัญหาการศึกษาต่างๆ ก็รวบรวมและศึกษาเรื่องที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมมาทำงานตำแหน่งนี้

Advertisement

⦁เคยผ่านงานด้านการศึกษามาก่อนหรือไม่
เคยเป็นประธานคณะกรรมการสถานศึกษา เป็นกรรมการโรงเรียนมัธยม และหลายปีที่ผ่านมาจะอยู่กับวงการครูมาทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นระดับปฐมวัย ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในระดับชั้นอนุบาล ชั้นประถมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษา ทั้งในโรงเรียนทุรกันดารห่างไกล โรงเรียนเอกชน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมถึงอาชีวศึกษา ดิฉันได้ทำงานและร่วมแก้ไขปัญหามาตลอดเวลา

ในระดับมหาวิทยาลัย มีโอกาสเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง (มร.) ระดับปริญญาตรีและโท ได้ร่วมงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวกับการศึกษา ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชน นอกจากนี้ ได้เป็นอาจารย์พิเศษสอนที่ มร. ทำให้ได้รับประสบการณ์จากการเป็นอาจารย์สอน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น แลกเปลี่ยนกระบวนทัศน์ ในขณะเดียวกันสามารถพัฒนาตนเอง โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

Advertisement

⦁คนมองว่ารัฐมนตรีจากโควต้าพรรค การเมือง มักจะไม่ค่อยรู้เรื่องการศึกษา
เรามีทีมงานที่อยู่ในแวดวงการศึกษาและผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงอื่นๆ เรารับฟังปัญหา ต้องทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว พร้อมรับทุกคำแนะนำ แล้วนำมาบูรณาการเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีที่สุด

สำหรับทีมงาน เช่น นายกมล รอดคล้าย อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ส่วนด้านเทคโนโลยี ได้เชิญ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีตรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นที่ปรึกษา

นอกจากนี้ มีอาจารย์จากมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่มาจากชนบทที่เห็นสภาพการศึกษาและการเรียนการสอนในชนบท และที่สำคัญได้เชิญ นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ อดีตประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จด้านการบริหารงาน สามารถสร้างบริษัทให้มีกำไรได้ เข้ามาเป็นหนึ่งในทีมที่ปรึกษาด้วย
เชื่อว่าความรู้ความสามารถที่ทุกคนมีและมาจากหลายภาคส่วน จะช่วยให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และช่วยพัฒนาการศึกษาได้

⦁จะพิสูจน์ตัวเองอย่างไรกับคำครหาต่างๆ
เรื่องพวกนั้น ยิ่งเป็นแรงผลักดัน ต้องขอบคุณ เพราะนั่นคือความห่วงใย และเป็นคำปรารถนาดีที่มอบให้กับกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. ยิ่งเป็นแรงผลักดันที่จะพิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์ผลงาน ให้ผู้ที่รอคอยเห็นว่าดิฉันจะทำให้ดีที่สุด เต็มที่ และสุดความสามารถ

⦁จะใช้ผลงานอะไรพิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์
งานที่รับผิดชอบอยู่นี่แหละค่ะ จะทำให้เห็นและฝากผลงานไว้ว่า เมื่อได้รับโอกาส ได้รับความไว้วางใจ ก็จะทำงานให้มีความสุข และจะทำให้เกิดผลงาน ทั้งวงการครู หรือครูเอกชน และพี่น้อง กศน.

⦁คุณพ่อสุนทร วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แนะนำอะไรบ้าง
ท่านไต่เต้าจากสมาชิกสภาเทศบาล มาเป็นนายกเทศมนตรี ส.ส. รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. และสมาชิกวุฒิสภา 1 สมัย เป็นแบบอย่างที่ดีมาตลอด ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตของท่าน เพราะการดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่ายากแล้ว การจะรักษาตำแหน่งทางการเมืองให้อยู่ในใจพี่น้องประชาชน มีผลงาน และแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนได้ เป็นเรื่องที่ยากกว่า

ดิฉันได้ลงพื้นที่กับท่าน ก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับดิฉัน เมื่อเข้ารับตำแหน่งนี้ ท่านได้ให้พร และให้แนวทางว่าต้องทำให้ดีที่สุด ต้องเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต เปิดใจ ทำตัวเสมอต้นเสมอปลายให้ประชาชนเห็นว่าทุกข์ประชาชนก็เห็นหน้าเรา สุขประชาชนก็เห็นหน้าเรา และเมื่อรับหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. จะต้องพัฒนานักเรียน เยาวชน ครู การศึกษาไทย อย่างสุดความสามารถ เน้นการมีส่วนร่วมจาก
ทุกภาคส่วน

⦁กำกับหน่วยงานไหนบ้าง
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับฟังการดำเนินงานที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นขอบเขตการรับผิดชอบงาน วิสัยทัศน์ สภาพปัญหาและอุปสรรค ซึ่งจะค่อยๆ แก้ไขปัญหาไปพร้อมกัน

สำหรับปัญหาเร่งด่วนที่ต้องเร่งแก้ไข ได้แก่ ครู กศน.จำนวนมากยังไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชการ มีสัดส่วนครู กศน.ที่เป็นข้าราชการน้อยมาก จะพยายามส่งเสริมให้ได้รับสวัสดิการที่ดีขึ้น มีโอกาสเป็นข้าราชการ ได้รับความมั่นคงในชีวิต

รวมทั้งจะพัฒนาหลักสูตร กศน.ให้ทันสมัย เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา พร้อมปรับปรุงหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง กศน.และหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดบูรณาการร่วมกัน ถือเป็นการพัฒนา กศน. ไปสู่ กศน.ยุคใหม่

ส่วนการจัดการศึกษาเอกชนนั้น ได้รับฟังปัญหาจากหน่วยงานภาครัฐ และบุคลากรใน ศธ. และเร็วๆ นี้ จะหารือกับสมาคมการศึกษาเอกชนต่างๆ เพื่อรับฟังปัญหาอย่างรอบด้าน เบื้องต้นพบปัญหาเร่งด่วนที่ต้องเร่งแก้ไขคือ เงินอุดหนุนรายหัวของนักเรียนโรงเรียนสังกัด สช. เงินอุดหนุนอาหารกลางวัน และสวัสดิการครูเอกชนที่ได้รับไม่เท่าเทียมกับภาครัฐ

⦁งานที่รับผิดชอบช่วยให้มีฐานเสียงทางการเมืองมากขึ้นหรือไม่
ในกระทรวง มีรัฐมนตรีว่าการ ศธ. และรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. 2 คนที่มาจากต่างพรรค แต่เราทำงานด้วยกัน เราคือหนึ่งเดียว

⦁รัฐมนตรีทั้ง 3 คนมาจากคนละพรรค จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่
รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ให้เกียรติในการทำงาน ทำอะไรก็แล้วแต่ต้องไปเสนอ และสรุปให้รัฐมนตรีว่าการ
ศธ.ฟัง การทำงานจะไม่มีประสิทธิภาพและไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าไม่ได้รับการมีส่วนร่วม และทุกวันนี้ทำงานอย่างมีความสุข คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่า ศธ.ก็ให้เกียรติ อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ ลงพื้นที่ใน จ.ลพบุรี ร่วมกัน ยังสามารถไปด้วยกันได้ แม้จะรับผิดชอบงานที่ต่างกัน

เมื่อรัฐมนตรีว่าการ ศธ.แบ่งงานกันแล้ว ได้พูดว่าต่อไปจะแบ่งงานตามความถนัดของรัฐมนตรีช่วยทั้ง 2 คนอีก เช่น คุณหญิงกัลยา อาจจะไปดูในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ การเกษตร อย่างตัวดิฉัน อาจได้รับโอกาสดูงานของ สอศ.ในเขตพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ยังบอกว่าถ้าดิฉัน และคุณหญิงกัลยา ประสงค์จะไปตรงไหน ก็ขอให้พูดคุยกัน ท่านยินดีที่จะให้เราช่วยงาน ซึ่งดิฉันคิดว่าเป็นทิศทางในการทำงานที่ดี

⦁ต้องเห็นผลงานเร็วที่สุดเมื่อไร
ตั้งเป้า 6 เดือนแรก จะเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องรอคุยกับคณะทำงานอีกครั้ง ถึงจะทราบทิศทางที่ชัดเจนขึ้น

⦁มีคติในการทำงานอย่างไรบ้าง
ยิ้มค่ะ ยิ้มไว้ เพราะการยิ้มจะทำให้เรามีพลัง ยิ้มสู้ทุกสถานการณ์

⦁งานที่ทำอยู่ค่อนข้างหนัก มีวิธีคลายเครียดอย่างไร
ได้คุยกับครอบครัว แค่คุยผ่านโทรศัพท์ก็มีความสุข และได้เล่นกันน้องหมา ปัจจุบันเลี้ยงน้องหมาที่ปลดประจำการ จากเจ้ากรมทหารสัตว์ ชื่อพลทหารวิไลน์ แวบแรกที่เห็น ก็รักเลย พันธุ์ลาบราดอร์ สามีดิฉันชอบสุนัขมาก ตอนนี้น้องหมาเต็มบ้าน มีหลายตัว นับสิบตัวได้

⦁คิดอย่างไรกับเสียงวิจารณ์ว่ารัฐมนตรีว่าการ ศธ.กินเรียบหน่วยงานใหญ่ เหลืองานเล็กๆ น้อยๆ ให้ 2 รัฐมนตรีช่วย
ไม่เลยค่ะ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้พูดไว้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เน้นย้ำเรื่องการศึกษามาก จึงถูกต้องแล้วที่รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ขอดูสภาพปัญหาโดยรวม เพราะสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ถือเป็นหน่วยงานหลักด้านการศึกษา และแน่นอนว่าจะให้ความสำคัญในทุกหน่วยงาน ดิฉันไม่มีข้อกังขาเรื่องนี้

⦁ครอบครัวให้กำลังใจอย่างไร
สามี (นายปกรณ์ ศรีจันทร์งาม) เพิ่งเกษียณอายุราชการ ในตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ตลอดเวลาที่ดิฉันเป็นนักการเมือง เป็นลูกนักการเมือง และมาเป็นนักการเมืองด้วยตัวเอง ถึงแม้จะมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่งทางการเมืองก็ตาม สามีสนับสนุน
ส่วนลูกทั้ง 3 คนเข้าใจ แล้วลูกมีความรับผิดชอบ ไม่เคยทำให้หนักใจ “แม่เหนื่อยไหม อย่าท้อนะ ให้กำลังใจแม่นะ” ถือเป็นของขวัญที่วิเศษมาก ครอบครัวเราอยู่กันแบบง่ายๆ สบายๆ ถ้าเราอยู่ด้วยกัน สามีจะเป็นคนทำกับข้าว

ลูกถือเป็นกระจกให้ดิฉัน ดิฉันเลี้ยงลูกโดยให้อิสระทางความคิด ให้อิสระในการตัดสินใจ แต่เราพูดคุย เคารพและให้เกียรติกันและกัน รับฟังกันและกัน บางวันลูกส่งข้อความผ่านไลน์มาว่า “สู้ๆ ให้กำลังใจนะ” เมื่อมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับการศึกษาดีๆ ก็แชร์มาให้ดิฉันอ่าน ลูกเป็นผู้สะท้อนสิ่งดีๆ ให้เรา
ลูกดิฉันกำลงเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนๆ ลูกก็สะท้อนผ่านลูกว่าอยากจะพัฒนาอะไร เหมือนเป็นผู้ช่วยและเป็นผู้สะท้อนการศึกษาเพราะกำลังอยู่ในช่วงวัยเรียน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image