ถามว่าอะไรคือเป้าหมายของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าในการฟ้อง 9 นักการเมือง 2 นักวิชาการ และ 1
ผู้ดำเนินการเสวนา ณ ลานวัฒนธรรมปัตตานี
คำตอบก็คือ เป็นการสกัด
คล้ายกับว่าไฟต์บังคับที่ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ต้องการแสดงบทบาทในฐานะ “มือกฎหมาย” ก็คือ
ไม่ต้องการให้การเคลื่อนไหวก้าวล่วงไปยังมาตรา 1 ของรัฐธรรมนูญ
จำเป็นเพราะว่าเกรงจะเกิดความปั่นป่วน วุ่นวาย
ปั่นป่วนวุ่นวายกระทั่งกระทบต่อลักษณะแห่งรัฐซึ่งยืนยันในความเป็น “รัฐเดี่ยว” ในที่สุดก็จะกลายเป็นช่องทางให้เกิดการแยกดินแดน
หากไม่แสดงบทบาทก็จะกลายเป็น “ละเว้น”
ยิ่งการเสวนาซึ่ง 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในปัตตานีอันเป็นส่วนหนึ่งของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยิ่งมากด้วยความละเอียดอ่อน
นี่คือเหตุผลที่รองรับการปฏิบัติของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า
ขณะเดียวกัน ถามว่าอะไรคือเหตุและความจำเป็นที่ 7 พรรค
ร่วมฝ่ายค้านซึ่งนำโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ไปแจ้งความ ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ
1 พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ 1 พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ
คำตอบสามารถอ่านได้จาก “แถลงการณ์” และที่สำคัญ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันว่าการจัดเสวนาของตนเสมอเป็นเพียงการระดม “ความคิด”
มิได้มีปฏิบัติการอะไรนอกเหนือจากนั้น
แม้กระทั่งคำอภิปรายของนักวิชาการที่พาดพิงถึงมาตรา 1 ของรัฐธรรมนูญก็เสมอเป็นเพียงข้อหารือภายหลังจากเสนอปัญหาภายในพื้นที่ว่า
อาจต้องมีการถกเถียงในประเด็นเกี่ยวกับมาตรา 1
หากสรุปบนพื้นฐานแห่งการใช้ภาษา คำพูดของนักวิชาการเสนอเป็นเพียง “ความคิด” มิได้เป็นการลงมือทำในทางเป็นจริง
นั่นก็คือ อยู่แค่ “ความ” มิใช่ “การ”
ความล่อแหลมเป็นอย่างมากจากปฏิบัติการของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าก็คือ แม้เพียงแค่ “คิด” ก็ไม่สามารถแสดงออกได้
แสดงออกเมื่อใด ถูกฟ้องเมื่อนั้น
หากคิดในเชิงบริบทก็จะมองเห็นความสัมพันธ์และยึดโยงกันบนเวทีแห่งการเสวนา 1 หัวข้อก็คือต้องการระดม
ความคิดอันสะท้อนความเกี่ยวข้องระหว่างสถานการณ์ในพื้นที่กับรัฐธรรมนูญ
1 ทั้งหมดนี้เสมอเป็นเพียง “จินตนาการ”
คนที่ถูกฟ้องคือ 9 นักการเมืองซึ่งจำนวนหนึ่งเป็นหัวหน้าพรรค จำนวนหนึ่งเป็นแกนนำของพรรค 2 คนเป็นนักวิชาการ และ 1 เป็นผู้ดำเนินการ
หากคนระดับนี้ไม่สามารถแม้กระทั่งจะ “คิด”
ก็พอจะมองได้ว่า ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บรรยากาศและสภาพความเป็นจริงที่ดำรงอยู่ในทางการเมืองจะเป็นเช่นไร
ก็พอจะตอบได้ว่า “ปัญหา” มาจากเหตุปัจจัยใด
การเมืองในเดือนตุลาคม 2562 แตกต่างไปจากการเมืองในห้วงก่อนการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562 อย่างแน่นอน
เพราะเป็นการเมืองที่มี “ส.ส.” อันมาจาก “การเลือกตั้ง”
เพราะเป็นการเมืองในสภาพความเป็นจริงที่มีความรู้สึกและมองเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
ยิ่งมีการแจ้งความ ยิ่งทำให้มั่นใจว่าจำเป็นต้องแก้ไข