นางคริสตาลินา จอร์จีวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เปิดแถลงข่าวเป็นครั้งแรกหลังรับตำแหน่ง เตือนว่าไอเอ็มเอฟคาดการณ์ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกปีนี้ว่าจะเกิดการชะลอตัวขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลกเกือบ 90% ของประเทศทั้งหมด ถือเป็นภาวะชะลอตัวที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือในระดับนานาชาติเพื่อรับมือกับภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลกที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจขึ้นเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจรวมทั่วโลกในปีนี้จะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี
กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟระบุว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า เศรษฐกิจโลกทรุดลงเนื่องจากความขัดแย้งต่อเนื่องกัน ตั้งแต่ความขัดแย้งด้านการค้า, ความตึงเครียดเชิงภูมิรัฐศาสตร์ กรณีเบร็กซิท สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ทำให้การค้าโลกแทบหยุดนิ่งในขณะนี้ ผลความเสียหายโดยรวมอาจสูงถึง 700,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2563 หรือ 0.8 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีของโลก หรือเทียบเท่ากับมูลค่าจีดีพีของสวิสทั้งประเทศ ประเทศที่มีศักยภาพด้านงบประมาณ ควรดำเนินมาตรการการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่ไปกับมาตรการทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์ และเกาหลีใต้
เศรษฐกิจไทยเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลก คำเตือนของไอเอ็มเอฟ สอดคล้องกับภาคเอกชนไทยที่แสดงความห่วงใยมาเป็นระยะ แม้ว่ามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็เป็นมาตรการระยะสั้นที่ต้องการความรวดเร็วในการช่วยพยุงให้เศรษฐกิจไทยโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ในระยะยาว ภาคเอกชนเรียกร้องให้เร่งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่อย่าง 5จี การกระตุ้นการท่องเที่ยว ประกอบกับการเมืองที่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ทำให้การผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 กลางเดือนตุลาคมนี้มีความสุ่มเสี่ยง ที่มองข้ามไม่ได้ก่อนอื่น คือชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ที่รัฐบาลจึงต้องหามาตรการ ลดผลกระทบอย่างทั่วถึง ไปพร้อมกับมาตรการระยะยาว
