ที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ไม่ว่าจะในฐานะรองประธาน กมธ.วิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ไม่ว่าจะในฐานะประธานวิปรัฐบาล อันมาจากพรรคพลังประชารัฐ
ระบุว่า นายอุตตม สาวนายน จะนำกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นกรรมาธิการวิสามัญ เข้าหารือในคณะกรรมาธิการนั้น
ถูกต้องและชอบด้วยหลักการอย่างที่สุด
เพราะนายอุตตม สาวนายน อยู่ในฐานะประธาน และนายวิรัช รัตนเศรษฐ อยู่ในฐานะรองประธาน มีอำนาจโดยชอบที่จะหารือกรณี การเป็นกรรมาธิการของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
และหากที่ประชุมคณะกรรมาธิการเห็นควรให้ทำหนังสือยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งเรื่องไปตีความก็เป็นไปตามกติกา
ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะทำอย่างลับๆ ล่อๆ
ต้องยอมรับว่า นับแต่มีการรับรองให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ในที่ประชุมสภา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมเป็นต้นมา
พรรคพลังประชารัฐมีปัญหากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มาโดยตลอด
เป็นปัญหาตั้งแต่มีข่าวว่า นายสุชาติ ตันเจริญ จะทำหนังสือเพื่อให้นายชวน หลีกภัย ดำเนินการวินิจฉัยว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แม้ฝ่ายกฎหมาย สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะยืนยันว่าทุกอย่างชอบด้วยกฎหมาย
เป็นปัญหาเมื่อบรรดาลูกแหล่งตีนมือในพรรคพลังประชารัฐออกมาก่อกวนการเป็นกรรมาธิการวิสามัญของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ด้วยศัพท์สำนวนแปลกๆ ถึงขั้นอุปมาว่าเป็นเหมือนไส้เดือน
จึงถูกแล้วที่นายอุตตม สาวนายน จะดึงเรื่องมาให้อยู่ใน “กติกา”
ความชอบธรรม ของนายอุตตม สาวนายน ไม่เพียงเพราะว่าดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
หากยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
และเมื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ต้องได้เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ และก็ได้รับการอวยให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการโดยอัตโนมัติ
เมื่อมีสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐหงุดหงิด เมื่อมีรองประธานจากพรรคพลังประชารัฐหงุดหงิดต่อกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
จึงชอบแล้วที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจะต้องมี “คำตอบ”