การละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา เป็นปัญหาระดับนานาชาติ ผู้สร้างสรรค์ทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้รับการยอมรับระดับโลก มีมูลค่าทางการค้าสูง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายการค้า และสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ จะอยู่ในประเทศตะวันตก ที่มีพลังอำนาจทางเศรษฐกิจสูง จึงกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญในทางการค้าระหว่างประเทศ ที่รัฐต่างชาติ จะใช้ผูกมัดประเทศที่มีพลังทางเศรษฐกิจต่ำกว่า ให้ต้องดูแลคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ในระดับที่กำหนด มิฉะนั้นจะมีปัญหาในการให้สิทธิทางการค้าและส่งออกสินค้าไปยังประเทศเหล่านั้น กรณีของประเทศไทย ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ยังมีแรงกดดันจากประเทศตะวันตกให้ดูแลจัดการอย่างเข้มข้น และกลายเป็นช่องทางให้เกิดการฉวยโอกาสทำมาหากิน ดังที่กำลังเป็นข่าวครึกโครมในขณะนี้
หลังจากคดีล่อซื้อกระทง ด.ญ.15 ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่อื้อฉาวขึ้นมา และขยายผลออกไปอย่างกว้างขวาง ทำให้มีการเปิดเผยถึงพฤติการณ์ผู้อ้างตัวเป็นตัวแทนดูแลลิขสิทธิ์ของบริษัทและกิจการต่างๆ อาศัยความไม่เข้าใจข้อกฎหมายของประชาชน ไปหลอกลวง สั่งหรือว่าจ้าง ให้ผลิตสินค้าโดยติดตรา รูปการ์ตูนที่มีลิขสิทธิ์ หรือสัญลักษณ์ของสินค้า แล้วนัดหมายให้นำสินค้าไปส่ง ก่อนแสดงตัวหรืออ้างตัวเข้าไปจับกุมโดยไม่มีอำนาจ ก่อนจะต่อรองเรียกให้จ่ายเงินทอง ตามจำนวนที่ต้องการ ดังที่มีการร้องเรียนในหลายจังหวัดทั่วประเทศในขณะนี้ และตำรวจกำลังสอบสวนดำเนินคดี เพื่อหาความจริงว่า แท้จริงแล้ว เป็นพฤติการณ์ต้มตุ๋นหรือกรรโชกทรัพย์หรือไม่
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พึงพิจารณาคดีนี้อย่างรอบด้าน ก็คือ ในหลายกรณี เหยื่อของแก๊งลิขสิทธิ์ ซึ่งล้วนแต่เป็นคนทำมาหากิน มีฐานะยากจน หรือระดับปานกลาง ถูกกระทำในบริเวณสถานที่ราชการและมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย หลายกรณีผู้อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ไปข่มขู่เหยื่อ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐไปด้วย บางรายควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหาขึ้นรถส่วนตัวไปส่งสถานีตำรวจ ทำให้เข้าใจได้ว่า การหากินโดยละเมิดสิทธิประชาชน มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย แน่นอนว่าการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นเรื่องผิดกฎหมายที่รัฐต้องดำเนินการ แต่ต้องใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ฉวยโอกาสผสมโรงหาประโยชน์ไปกับมิจฉาชีพด้วย
