ไม่ว่าจะติดตาม “นิด้าโพล” ไม่ว่าจะติดตาม “กรุงเทพโพลล์” ไม่ว่าจะติดตาม “สวนดุสิตโพล” ไม่ว่าจะติดตาม “ซูเปอร์โพล”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหนื่อย
เหนื่อยเพราะคะแนนและความนิยม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตกเป็นรอง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อย่างเด่นชัด
ทั้งๆ ที่เป็น “นายกรัฐมนตรี”
ทั้งๆ ที่บริหารราชการแผ่นดินมานับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เรื่อยมากระทั่งถึงเดือนมกราคม 2562
ทั้งๆ ที่ ณ วันนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ได้เป็น ส.ส.
ทั้งๆ ที่ ณ วันนี้ คดีความอันเนื่องจากกลไกรัฐบาล กลไกองค์กรอิสระ กลไกพรรคพลังประชารัฐ ก็รุมกระหน่ำเข้าใส่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หนักหนาสาหัส
เหตุใดความนิยม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงเหนือกว่า
ตัวอย่างล่าสุดจากการสำรวจของสำนักวิจัยซูเปอร์โพลสร้างความตื่นตะลึง ตระหนกตกประหม่าให้เป็นอย่างสูงกับกองเชียร์ที่แวดล้อม “ลุง”
เนื่องจากเอา “วิ่งไล่ลุง” มาเป็น “บรรทัดฐาน”
เป็นการสำรวจภายใต้ผ่าน “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” ด้วยระบบ Net Super Poll และสำรวจผ่าน “เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม” (Traditional Voice)
ปรากฏว่าเสียงที่เคย “เชียร์” เคิร์ฟลดลง ลดลง
ขณะเดียวกัน เสียงที่อยู่ใน “โลกโซเชียล” กลับเทไปทางด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มากกว่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างมีนัยสำคัญ
โดยเอากิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” กับ “เดินเชียร์ลุง” มาเป็นคู่เปรียบเทียบ
ผลก็คือ ในโลกโซเชียลมีคนเข้าถึง “วิ่งไล่ลุง” มากถึง 7 ล้านกว่า แต่มีคนเข้าถึง “เดินเชียร์ลุง” เพียง
5 แสนกว่า เท่านั้น
มีคนพูดถึง “วิ่งไล่ลุง” 1 แสนกว่าคน มีคนพูดถึง “เดินเชียร์ลุง” 1 พันกว่าคน
หากปรากฏการณ์ FLASH MOB เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม ณ ลานสกายวอล์ก ปทุมวัน คือดัชนีชี้วัดสภาพ “ขาลง” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
กิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” คืออีกรูปธรรม
เป็นรูปธรรมที่มิได้มีการ “วิ่งไล่ลุง” เฉพาะที่สวนรถไฟ เขตจตุจักร กทม. ในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม เท่านั้น
หากแพร่กระจายในขอบเขตทั่วประเทศ
ไม่ว่าภาคอีสานที่นครราชสีมา ภาคเหนือที่เชียงใหม่ ภาคกลางที่นครปฐม หากแม้ภาคใต้ก็ยังมีที่ปัตตานี
ทั้งๆ ที่มีคำสั่ง “ลับ” สกัดขัดขวางเต็มพิกัด
เฉพาะ “วิ่งไล่ลุง” ก็มีผู้แสดงความจำนงผ่านออนไลน์เกือบ 10,000 คน กระทั่งต้องปิดการเปิดรับอย่างฉับพลัน
นี่คือสัญญาณอันส่งไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง
นับแต่เดือนมกราคม เป็นต้นไป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องประสบกับการยุทธ์ทั้งระดับ “ย่อย” และการยุทธ์ระดับ “ใหญ่”
เริ่มจาก “งบประมาณ” ตามด้วย “อภิปรายไม่ไว้วางใจ”
ในเมื่องบประมาณพุ่งไปยังกระทรวงกลาโหม ในเมื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจพุ่งไปยังผลพวงและความล้มเหลวของรัฐประหาร
แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรอดไปได้อย่างไร
