ภายหลังความอื้อฉาวจาก “กรณีเสียบบัตรแทนกัน” เมื่อประสานเข้ากับ “กรณีฟ้าผ่าใหญ่” ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จังหวะก้าวของ “รัฐบาล” เริ่มป้อแป้
สัมผัสได้จากความหงุดหงิดภายในพรรคพลังประชารัฐ สัมผัสได้จากความหงุดหงิดภายในพรรคภูมิใจไทย
สัมผัสได้จากเอกภาพในพรรคประชาธิปัตย์
กระแสการรุกในเรื่อง “ส.ส.ฝากเลี้ยง” อันมาจากปฏิบัติการลับของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กระแสการทะลวงไปยังกล่องดวงใจพรรคเพื่อไทยในเรื่อง “ดีลลับ”
ก็ค่อยๆ เงียบหาย กลายเป็นเรื่องตลก
อย่างน้อยที่สุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์รัฐบาล ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ก็ดำรงอยู่ในลักษณะโลว์ โปรโฟล์
ปล่อยบทให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำเต็มตัว
ต้องยอมรับว่าการปล่อยประเด็นในเรื่อง “ส.ส.ฝากเลี้ยง” อาศัยคอนเน็กชั่นระหว่าง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับ ส.ส.ภาคอีสาน
มากด้วยสีสัน มากด้วยความคาดหวัง
เพราะว่า ปรากฏการณ์ “งูเห่า” คนหนึ่่งในพรรคเพื่อไทยก็มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก็เคยเป็นถึงเลขาธิการพรรคไทยรักไทย
เมื่อประสานเข้ากับ “ดีลลับ” ยิ่งวิลิศมาหรา
น่าสังเกตว่าทางด้านรัฐบาลปล่อยข่าวนี้ผ่าน อดีตนักการเมืองซึ่งเคยมีสายสัมพันธ์กับ “ตำรวจ” มาอย่างยาวนาน และอยู่ในฐานะเป็น “เพื่อน” กับนายทหารใหญ่
นายทหารใหญ่ซึ่งเป็น Proxy ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เหมือนกับ “ดีลลับ” นี้จะเป็นการปกปัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยการโยงให้เข้าไปแนบแน่นอยู่กับเส้นสนกลในของพรรคเพื่อไทย
ในอีกด้านกลับเป็นการชู พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หากมองแต่ละจังหวะก้าวของการวางกลยุทธ์ทางการเมืองเด่นชัดว่ารัฐบาลไม่ยอมตกเป็นเป้านิ่งในกระแสแห่งการรุกไล่ผ่านญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
อย่างน้อยก็เปิดเกมรุกผ่านงานด้าน “การข่าว”
การข่าวในแบบ “ส.ส.ฝากเลี้ยง” การข่าวในแบบ “ดีลลับ” เป้าหมายใหญ่ก็คือ สร้างความหวาดระแวงในด้านของฝ่ายค้าน
หวาดระแวงต่อ “งูเห่า” หวาดระแวงต่อ “ไส้ศึก”
ขณะเดียวกัน ก็สร้างและขยายข่าวอันเป็นรอยหมางระหว่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ กับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ให้บานปลาย
ทำให้ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป “ด้อยค่า”
กระนั้น เมื่อทั้ง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ทั้ง นายภูมิธรรม เวชยชัย ออกมายืนยันและสำทับในเอกภาพ
อันดำรงอยู่ภายในฝ่ายค้านบรรดาข่าวปล่อยทั้งหมดก็วูบหายวับไป
เหลือเพียงความข้นเข้มในการอภิปรายทั่วไป
การประชุมร่วมหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านภายในพันธมิตรพรรคร่วมฝ่ายค้านจึงเด่นชัดยิ่งในความเป็นเอกภาพในทางความคิดและในทางการเมือง
จาก นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าพรรคเสรีรวมไทย ไม่ว่าพรรคประชาชาติ ไม่ว่าพรรค
เพื่อชาติ ไม่ว่าพรรคพลังปวงชนไทย หรือแม้กระทั่งพรรคเศรษฐกิจใหม่
ปลายหอกล้วนกระหน่ำเข้ายอดอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
