หลังเหตุการณ์สังหารประชาชนที่จังหวัดนครราชสีมาเมื่อวันที่ 8-9 ก.พ. ได้มีการจัดมาตรการสำหรับแก้ปัญหาจากหลายหน่วยงาน ส่วนทางตำรวจ มีการถอดบทเรียน เพื่อนำไปสู่มาตรการและแนวปฏิบัติต่างๆ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ได้เปิดเผยเรื่องนี้ว่า นอกจากมาตรการรับมือที่กำลังหารือกันอยู่ อีกส่วนหนึ่งพี่น้องประชาชนทุกคนต้องช่วยกัน ตำรวจจะไปสร้างความเข้าใจให้ความรู้ และทบทวนมาตรการต่างๆ ในพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่เอกชนที่ประชาชนเข้าไปใช้จำนวนมาก อาทิ ห้างสรรพสินค้า หรือธนาคาร โดยจะขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการ
เมื่อถามว่า แนวทางทางการป้องกัน Active Shooter หรือมือปืนกราดยิงในที่สาธารณะ จะนำโมเดลของต่างประเทศมาปรับใช้หรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า เป็นแนวทางศึกษาหนึ่ง แต่ต้องมาดูบริบทของไทยว่าทำได้หรือไม่ ส่วนการควบคุมความปลอดภัยในพื้นที่จำกัด อาทิ ห้างสรรพสินค้า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาจจะต้องมีการฝึกซ้อมกันว่า ถ้าเกิดเหตุจะต้องสามารถระบุตำแหน่งที่เกิดเหตุได้ รวมถึงกรณีที่อยู่ในห้องควบคุมกล้องวงจรปิด จะต้องสามารถสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เพื่อนำประชาชนออกจากพื้นที่ด้วยความปลอดภัย ไม่ใช่วิ่งย้อนกลับไปเจอคนร้าย มีรายละเอียดมากที่จะต้องพูดคุยทำความเข้าใจกัน ส่วนการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะจะต้องคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตำรวจไม่ได้มีหน้าที่ในเรื่องการออกใบอนุญาตการมีและใช้อาวุธปืน แต่ก็เป็นส่วนที่จะประสานว่าจะทำอะไรได้ในเรื่องนี้
เหตุการณ์ที่นครราชสีมาที่มีผู้เสียชีวิตถึง 30 ราย เป็นเหตุการณ์สำคัญ เกิดในพื้นที่สาธารณะ ทั้งวัดและห้างสรรพสินค้า มีประชาชนมาทำธุระ กิจกรรม และพักผ่อนเป็นจำนวนมาก ผู้ก่อเหตุผ่านการฝึกฝนการใช้อาวุธมาเป็นอย่างดี ใช้อาวุธสงครามของทางราชการ และรถยนต์ที่ปกติใช้ในราชการทหาร เป็นเรื่องที่ไม่อาจปล่อยผ่านได้ ในอีกด้านหนึ่งจะต้องให้ข้อมูลและแนวทางแก่ประชาชนด้วยว่า หากเกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้น ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ถึงจะไม่ตกเป็นเป้าของคนร้าย มีความปลอดภัยและเปิดโอกาสให้กับหน่วยงานที่จะเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ได้ทำงานอย่างสะดวก เพื่อลดความสูญเสีย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
