พลันที่ นายวิษณุ เครืองาม ออกมา “เคลียร์” ในเรื่อง “ข้อมูล” หน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้น
ก็เหมือนกับเปิดทางโล่งให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
เปิดทางโล่งให้สามารถอธิบายได้ว่าเสมอเป็นเพียงข้อมูลของ “วัตถุดิบ” มิได้เป็นความจริงว่ามีหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้นอยู่ในมือ
แต่ผลของการเคลียร์อันมาจากกระบวนการรัดกุมของรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายก็คือ
1 หน้ากากอนามัยที่จะส่งให้โรงพยาบาลอยู่ในความดูแลของกระทรวงสาธารณสุข 1 หน้าที่ในการกระจายไปตามร้านขายยาเป็นของกระทรวงมหาดไทย
เช่นนี้แล้ว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ยังจะ ”หน้านวล” อยู่อีกหรือ
ความหมาย ของการเคลียร์โดยรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายก็อีหรอบเดียวกับการเคลียร์โดยนายกรัฐมนตรีในกรณีของคดีความระหว่างกรมการค้าภายในกับกรมศุลกากร
นั่นก็คือ การโอนย้ายอธิบดีกรมการค้าภายในมา ”แขวน” ไว้ในทำเนียบรัฐบาล
เป็นการโอนย้ายโดยไม่ปรึกษากระทรวงพาณิชย์
เท่ากับฐานข้อมูล ”ลับ” จากการสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่อยู่ในมือของนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างไร
จึงไม่แปลกที่ทางออกแห่งความอื้อฉาวในกรณีหน้ากากอนามัยขาดแคลนล่าสุดของรัฐบาลจะเท่ากับเป็นการตัดวงจรความรับผิดชอบออกไปจากกระทรวงพาณิชย์โดยสิ้นเชิง
เท่ากับมองไม่เห็นบทบาทของกระทรวงพาณิชย์ เท่ากับมองไม่เห็นบทบาทของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
ความอื้อฉาวของ ”หน้ากากอนามัย” ยังไม่จางหาย ก็เกิดกรณีการหายไปของ “ไข่ไก่” ในท้องตลาด และความไม่สามารถในการควบคุม “ราคา” ตามมา
นี่ล้วนอยู่ในความควบคุมกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์
นี่ล้วนอยู่ในสายงานความรับผิดชอบของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไม่ว่าจะมองผ่านตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
และที่สำคัญในทางการเมืองก็คือการอยู่ในสถานะแห่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ยากอย่างยิ่งที่หน้าของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จะยังนวล