บทนำวันจันทร์13เมษายน2563 : สงกรานต์ปีนี้

วันสงกรานต์ ปีนี้จะเงียบเชียบและเงียบเหงา แตกต่างจากทุกๆ ปีที่ผ่านมา เพราะการแพร่ระบาดในระดับโลก รวมถึงประเทศไทยของไวรัสโคโรนา ทำให้รัฐบาลขอความร่วมมือ
ประชาชนในมาตรการรักษาระยะห่าง ประกอบกับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทศกาล มีจุดอ่อนที่อาจติดเชื้อได้ง่าย จึงทำให้การเข้าพบขอพร หรือรดน้ำดำหัวไม่สามารถกระทำได้ การเดินทางกลับภูมิลำเนา ที่เคยทำให้การจราจรทั่วประเทศอยู่ในสภาพโกลาหล เพราะมีรถบนท้องถนนจำนวนมาก เกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จนต้องมีการรณรงค์เฝ้าระวัง 7 วันอันตราย ในปีนี้จะไม่มีสภาพดังกล่าว

ในห้วงเวลาสงกรานต์ กทม.และหลายจังหวัด ได้สั่งห้ามจำหน่ายสุรา ปิดสถานประกอบการจำหน่ายสุรา บางจังหวัดไม่ห้ามจำหน่ายสุรา แต่ห้ามรวมกลุ่มดื่มสุรา นับเป็นสถานการณ์ใหม่ในชีวิตของคนไทย ที่คุ้นเคยกับการพบปะสังสรรค์ในเทศกาลที่มีความหมายทางจิตใจมาตั้งแต่เล็กจนโต แต่เพื่อขจัดเงื่อนไขของการแพร่ระบาด ก็ต้องยอมรับและให้ความร่วมมือ แม้แต่ในครอบครัวเดียวกัน หากมีสมาชิกครอบครัวหลายวัย ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ก็ยังต้องระวังการคลุกคลีหรือสัมผัสระหว่างสมาชิกครอบครัว โดยต้องรักษาระยะห่าง เพื่อมิให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ และเห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกันว่า การเอาชนะไวรัสมรณะ เพื่อประโยชน์สุขและสุขภาพของคนทั้งประเทศ จะไม่เกิดจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่จะต้องมาจากความร่วมมือของทั้งสังคม ยอมรับปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้น คือความเดือดร้อนของประชาชน เพราะมาตรการรักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม ทำให้การทำธุรกิจ การทำอาชีพ ไม่สามารถดำเนินการได้ ขณะที่ประชาชนให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ยอมสละเสรีภาพ ความเคยชินต่างๆ เพื่อให้สังคมปลอดภัย รัฐบาลเอง ก็จะต้องตอบสนอง บริหารงานแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ หาวิธีการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผู้ขาดรายได้ มิให้เครื่องอุปโภคบริโภคขาดตลาด รวมถึงจัดการให้ประชาชนสามารถซื้อหรือเข้าถึงสินค้าเพื่อความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัยหรือผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่จำเป็น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image