ไม่ว่าความจริงอันปรากฏผ่านพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าความจริงอันจะปรากฏผ่านพรรคประชาธิปัตย์ คือ เสียงระฆังในทางการเมือง
ส่งสัญญาณไปยัง “การปรับ ครม.”
เพียงแต่ระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์ มีองค์ประกอบและความจัดเจนในทาง การเมืองแตกต่างกัน
กระดูกคนละเบอร์
พรรคประชาธิปัตย์จึงผ่อนคลายได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าในเรื่องกรรมการบริหาร ไม่ว่าในเรื่องการประชุมพรรค
ตรงกันข้าม ในพรรคพลังประชารัฐฝุ่นตลบ
สถานการณ์อันกำลังเกิดขึ้น ดำรงอยู่และดำเนินไปภายในพรรคพลังประชารัฐ นั่นแหละคือ สัญญาณ
นั่นแหละคือ การเตือน
เตือนทหาร เตือน คสช.
กองเชียร์ คสช.ไม่ว่าจะเป็น “ป้าเสรี” ไม่ว่าจะเป็น “ลุงดี้” มักปลอบประโลมกันเองด้วยประโยคที่ว่าอำนาจอันเบ็ดเสร็จอยู่ในมือ “กลุ่ม 3 ป.”
ถึงยังไงเป้าหมายก็ทำเพื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่ว่าอย่างไร ทุกบาทก้าว ทุกการขับเคลื่อนด้วยดำรงอยู่ด้วยความ CARE ห่วงหาอาทรผูกพันอย่างลึกซึ้ง
ของ “3 ป.”
ถามว่าเป็นอำนาจอันเบ็ดเสร็จจริงละหรือ
หากจริงเหตุใดต้องมีการยื่นใบลาออกของ 18 กรรมการบริหาร หากจริงเหตุใดต้องส่ง นายไพบูลย์ นิติตะวัน ออกมาประกบทุกฝีก้าว
นี่คือรูปธรรมแห่งความไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด
อย่างน้อยคำถามที่ว่า “เบื่อมั้ย” อย่างน้อยคำถามที่ว่า “ทำไมคนดีจึงอยู่ไม่ได้” จึงรวมศูนย์ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง
สะท้อนให้เห็นความไม่เบ็ดเสร็จ ไม่เด็ดขาด
ปมเงื่อนอยู่ที่ว่าเป้าหมายแท้จริงของปฏิกิริยาอันเกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ หรือแม้กระทั่งอันตามมาในพรรคประชาธิปัตย์อยู่ที่ไหน
ตอบได้เลยว่า อยู่ที่ “ครม.”
ที่มีเสียงยืนยันซ้ำแล้วซ้ำอีกจากทำเนียบรัฐบาลว่า อำนาจในการปรับครม.เป็นของนายกรัฐมนตรี เป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่เพียงผู้เดียว
ถามว่าเป็นความจริงมากน้อยเพียงใด
ไม่สงสัยบ้างหรือว่า การปรับเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค การปรับเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค สำคัญอย่างไรในทางการเมือง
ทั้งกระทำโดยชู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เสียด้วย
การดำรงอยู่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในตำแหน่งหัวหน้าพรรค คือการดำรงอยู่อย่างแหลมคมยิ่งต่ออำนาจในการปรับ ครม.จากพรรคพลังประชารัฐ
แล้วยังมีจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย อีกด้วย
ต้องยอมรับว่ากลยุทธ์ในการผลักดันและชูให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้ายึดกุมในตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแหลมคม
แหลมคมและท้าทาย
ท้าทายไม่เพียงอำนาจอันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของ “คสช.” หากท้าทายลักษณะเบ็ดเสร็จของ “คสช.” ต่อกระบวนการ “ปรับ ครม.” อีกด้วย
ใครจะเป็น “หมู่” ใครจะเป็น “จ่า” ไม่นานมีคำตอบ
