รายงาน 24มิ.ย.2563 : ชะตา การเมือง ‘หม่อมอุ๋ย’ กะ ‘สมคิด’ ‘เหยื่อ’ การเมือง

สภาพทางการเมืองที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประสบ

มิได้เป็นเรื่อง “ใหม่”

อย่างน้อยที่สุดก็เป็นสภาพอย่างเดียวกันกับที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล นายสมหมาย ภาษี นายณรงค์ชัย
อัครเศรณี
ประสบมาแล้วในการปรับ ครม.เมื่อเดือนสิงหาคม 2558

ปฏิกิริยาของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเทวกุล ต่อชะตากรรมที่ประสบเบาบางอย่างยิ่ง เพราะเพียงแต่ปล่อยยอด
คำเท่ออกมาประโยคหนึ่ง

Advertisement

“แบ่งแยกแล้วปกครอง”

กระนั้น ไม่ว่าสภาพที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ประสบเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 ไม่ว่าสภาพที่ นายสมคิด
จาตุศรีพิทักษ์ ประสบในเดือนมิถุนายน 2563 ตรงกัน

คือ ชะตากรรมแห่ง “เหยื่อ”

Advertisement

ต้องยอมรับว่าชะตากรรมของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ต้องเผชิญมาจากแรงกระแทก 2 ส่วนอันดุดันเป็นอย่างยิ่งในทางการเมือง

1 จากภายใน 1 จากภายนอก

ปัจจัยจากภายนอกเป็นกระบวนการบริหารจัดการที่ต้องประสบกับภาวะราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ
ไม่ว่ายางพารา ไม่ว่าปาล์มน้ำมัน

เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแต่ละ “พื้นที่” กระหึ่ม

ปัจจัยภายในแม้ไม่ปรากฏอย่างเปิดเผย แต่ก็ต้องยอมรับว่าบทสรุปที่ว่า “แบ่งแยกแล้วปกครอง” มาจากปัจจัยส่วนนี้

เพราะ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นั่งอยู่ในคณะที่ปรึกษา คสช.

คนที่คร่ำหวอดทางการเมืองระดับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ระดับ นายสมหมาย ภาษี ระดับ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ย่อมกระสาต่อ “กลิ่น”

จึงขมวดออกมาเป็น “แบ่งแยกแล้วปกครอง”

จุดต่างอย่างสำคัญระหว่างชะตากรรมที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ​และคณะประสบ กับ ชะตากรรมที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และคณะประสบ

คือ กลุ่มของ “หม่อมเต่า” ไม่ได้แข็งขืน

ยอมรับต่อชะตากรรมการถูกปลดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีของแต่ละคนแต่โดยดี จะมีหลุดยอดคำเท่ออกมาบ้างก็ภายหลัง

แต่กลุ่มของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไม่ยอมเป็นเป้านิ่ง

เพียงแต่เป้าหมายในการเข้าต่อกรสัประยุทธ์มิได้อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และมิได้อยู่ที่ พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ

หากแต่เป็น “คนอื่น” ในพรรคพลังประชารัฐมากกว่า

คำถามที่ว่า “เบื่อมั้ย” การเปรียบเทียบระหว่างการเมือง “เก่า” กับการเมือง “ใหม่” ตลอดจนที่หลุดออกมาว่า “ทำไมคนดีจึงอยู่ไม่ได้”

มิได้อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิได้อยู่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

สถานการณ์การปรับ ครม.ในเดือนกรกฎาคม 2563 จึงต่างจากการปรับ ครม.ในเดือนสิงหาคม 2558 ทั้ง
รูปแบบและเนื้อหา

มีความละเอียดอ่อนและอ่อนไหวยิ่ง

เพราะคราวนี้มีพรรคพลังประชารัฐ เพราะภายในองค์ประกอบของพรรคพลังประชารัฐนั้นมิได้มีคณะเดียวกลุ่มเดียว ตรงกันข้าม ดำรงอยู่อย่างชนิดร้อยพ่อพันธุ์แม่

ทั้งยังชูภาพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นสูงเด่นอีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image