บทนำวันศุกร์ที่10กรกฎาคม2563 : สภาล่มอีกแล้ว

ทั้งๆ ที่พรรคฝ่ายรัฐบาลมีเสียงกว่า 270 เสียง มากกว่าพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้เสียงสนับสนุนรัฐบาลยังมีมากกว่าเสียงของฝ่ายค้านกว่า 60 เสียง แต่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาก็ยังมีปรากฏการณ์สภาล่ม โดยหลังจากที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดให้สมาชิกได้ปรึกษาหารือเสร็จ การประชุมได้เข้าสู่วาระการพิจารณารับทราบรายงานผลการปฏิบัติงาน กสทช. ประจำปี 2562 และรายงานการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบัติงาน กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ประจำปี 2562

เมื่อเข้าสู่วาระการรับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2562) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่เห็นด้วยกับรายงานการปฏิรูปฉบับดังกล่าว เนื่องจากข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปทำรายงานให้ครบถ้วนสมบูรณ์มากกว่านี้ ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เสนอให้ประธานตรวจสอบองค์ประชุมก่อน ปรากฏว่ามีผู้แสดงตน 231 เสียง ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของที่ประชุมทั้งหมด คือ 244 เสียง ประธานจึงสั่งปิดประชุม

องค์ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นเรื่องสำคัญ ที่ผ่านมาเคยมีกรณีสมาชิกวุฒิสภาไม่เห็นความสำคัญกับวาระการประชุมบางวาระ จึงไม่เข้าร่วมลงคะแนนเสียง ซึ่งได้รับเสียงตำหนิจากสังคมมาแล้วว่าถ้าไม่พร้อมจะทำหน้าที่วุฒิสภาก็ไม่ต้องเป็นสมาชิกวุฒิสภา คราครั้งนี้เหตุการณ์มาเกิดที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งต้องหาสาเหตุว่าทำไมองค์ประชุมจึงไม่ครบ เพราะด้วยจำนวนเสียงฝ่ายรัฐบาลก็สามารถทำให้องค์ประชุมครบได้ตลอดเวลาแม้ว่าพรรคฝ่ายค้านจะวอล์กเอาต์ แต่เมื่อองค์ประชุมไม่ครบวิปฝ่ายรัฐบาลต้องกลับไปหารือและแก้ไขปัญหา ก่อนที่ข้อครหาเรื่องอื่นๆ ที่เป็นผลเสียต่อตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเกิดขึ้น เรื่องการไม่ใส่ใจการประชุม ใส่ใจแต่วาระที่เป็นผลประโยชน์ต่อตัว และพรรคตัวเองเท่านั้น ส่วนวาระที่กฎหมายกำหนด อาทิ การรับฟังความคืบหน้าในการปฏิรูปประเทศ หรือวาระการรับทราบความคืบหน้าอื่นๆ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด กลับเป็นเรื่องที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ใส่ใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image