เมื่อเร็วๆ นี้ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมด้วยกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท กลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ยื่นข้อเรียกร้องต่อกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้ 1.ดำเนินการทางวินัย
ขั้นเด็ดขาดต่อครูที่ละเมิดสิทธิ ทำร้ายร่างกายและจิตใจของเด็กในทุกกรณี 2.กรณีมีความผิดตามกฎหมายอาญา ให้ ศธ.เป็นที่พึ่ง ช่วยแจ้งความหรือฟ้องร้องดำเนินคดี 3.ประชาสัมพันธ์สายด่วน 1579 ให้นักเรียนทราบช่องทางในการร้องเรียนต่อกระทรวงศึกษาธิการโดยตรง และ 4.ปรับปรุงระเบียบกระทรวงให้มีบทลงโทษครูและผู้บริหารโรงเรียนที่ผิดระเบียบ ลงโทษนักเรียนด้วยวิธีละเมิด
ตัวแทนกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ขอให้ ศธ.ยกเลิกระเบียบทรงผม ซึ่งพวกตนรู้ดีว่า ศธ.อนุญาตให้นักเรียนไว้ผมยาว แต่ให้อำนาจกับโรงเรียนในการกำหนดหลักเกณฑ์ ซึ่งในช่วงเปิดภาคเรียนที่ผ่านมา ทางกลุ่มได้รับเรื่องร้องเรียนจากเด็กที่ถูกกล้อนผม มาต่อเนื่อง ดังนั้น นอกจากขอให้ยกเลิกระเบียบทรงผมดังกล่าว ขอให้มีการออกกฎลงโทษผู้ที่กระทำรุนแรงกับเด็กด้วย หากไม่มีการดำเนินการใดๆ จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้
ส่วนกลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย เผยว่า ในกลุ่มภาคตะวันออกมีการลิดรอนสิทธินักเรียน อาทิ วิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งหนึ่ง ตัดผมเด็ก โดยไม่ว่ากล่าวตักเตือนให้ปรับปรุงแก้ไขก่อน เป็นการตัดในลักษณะกลั่นแกล้ง ให้อับอาย ไม่ใช่เพื่อให้ปรับปรุงตัว เช่น ตัดเป็นขั้นบันได เป็นต้น ขณะที่ในส่วนของโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง ครูบังคับให้นักเรียนก้มกราบ เด็กนำเรื่องนี้ไปโพสต์ในโซเชียลมีเดีย ทำให้ครูเกิดความไม่พอใจ เรียกเด็กมากราบขอขมา และบังคับให้ลาออกจากโรงเรียน ไม่เช่นนั้นจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย
น่าจะถึงเวลาที่ ศธ.จะต้องพิจารณาเรื่องการละเมิดเยาวชนอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการไว้ผมยาว การสร้างค่านิยม อาทิ ให้นักเรียน นักศึกษา หมอบกราบครู อาจารย์ และมีการลงโทษเยาวชน ตอบโต้ต่างๆ หากฝ่าฝืน และควรพิจารณาด้วยว่าระเบียบ ศธ.เอง อาจเป็นต้นเหตุของความวุ่นวาย ดังที่กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไทระบุ เพราะเปิดช่องให้โรงเรียนวางหลักระเบียบทรงผม แม้จะระบุไม่ให้ขัดกับระเบียบกระทรวงก็ตาม
