09.00 INDEX ‘อาฟเตอร์ช็อก’ หลัง ‘ปรับ ครม.’ จากมุม ของ ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ถามว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงต้องหงุดหงิดเมื่อมีผู้นำข้อสังเกตในเรื่องการปรับ ครม.จาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ขึ้นมาสอบถาม

ถามว่าทำไม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงต้องยืนยันว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ยังเคารพและให้เกียรติ ”นายกรัฐมนตรี”

ตอบได้เลยว่าเพราะคำว่า “อาฟเตอร์ช็อก”

ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วการตั้งข้อสังเกตในเรื่องความไม่พอใจต่อกระบวนการปรับ ครม.เป็นเรื่องที่อาจประเมินว่า “เคย” เกิดขึ้น แต่ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

Advertisement

อันเท่ากับยืนยันว่า หาก “อาฟเตอร์ช็อก” จะมีก็ไม่น่าจะมาจากอย่างน้อย 3 คน 1 คือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 1 คือ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ 1 คือ นายอนุชา นาคาศัย

กระนั้น ความหงุดหงิดก็บังเกิดขึ้นและแสดงออกมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

จน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องออกมา ”ปราม”

Advertisement

 

ท่วงทำนองของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ น่าศึกษาอย่างเป็นพิเศษ เพราะเป็นท่วงทำนองในสถานะแห่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มิได้เป็นท่วงทำนองแห่ง ”บูรพาพยัคฆ์”

นั่นก็คือ ดำเนินไปในลักษณะแห่งการ ”ป้องปราม” ด้วยความนุ่มนวล

สัมผัสได้จากการยืนยันเหมือนกับจะพูดแทน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ว่ายังมีความเคารพและยังให้เกียรตินายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหมือนเดิม

ความหมายของคำพูดลักษณะนี้ ด้านหนึ่ง ก็คือการยืนยันต่อนายกรัฐมนตรี อีกด้านหนึ่ง คือการปกป้อง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน โดยอัตโนมัติ

ลึกยิ่งไปกว่านั้นก็คือ การเตือนว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่ควรเอ่ยถึง “อาฟเตอร์ช็อก” จากการปรับ ครม.อีก

เพราะหากพูดเมื่อใดคนที่หงุดหงิดคือนายกรัฐมนตรี

 

คำถามก็คือ แล้วโอกาสที่จะเกิด “อาฟเตอร์ช็อก” ในทางการเมืองภายหลังการปรับ ครม.มีแนวโน้มและความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รู้ดีว่ามีความเป็นไปได้สูง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายอนุชา นาคาศัย รู้ดีว่ามีความเป็นไปได้สูง และน่าจะปรากฏให้เห็นในอีกไม่นานเท่าใดนัก

มิเช่นนั้นทั้งหมดนี้คงไม่ออกมา “ป้องปราม”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image