| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
หากคำว่า “อาฟเตอร์ช็อก” จากปาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะก่อภาวะหงุดหงิดในหัวใจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
กระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องออกมา “ปราม”
ก็เชื่อได้เลยว่า สภาพการณ์ “การปรับ ครม.” จะก่อให้เกิด “อาฟเตอร์ช็อก” อย่างไม่ขาดสายให้กับรัฐบาล ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เป็นอาฟเตอร์ช็อกจาก “พลังประชารัฐ”
ไม่ใช่จากพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่จากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่จากพรรคชาติไทยพัฒนา ทั้งไม่ใช่จากพรรคเพื่อไทย และทั้งไม่ใช่จากพรรคก้าวไกล
แม้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเป็นหัวหน้าพรรคก็ตาม
ยุทธศาสตร์ที่ว่า การเข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพื่อกระชับอำนาจให้กับ “กลุ่ม 3 ป.” จะกลายเป็นอื่น
จากพลัง “ภายใน” พรรคพลังประชารัฐเอง
ไม่ว่าเกจิทางการเมืองจากสำนักใด เมื่อมองดูกระบวนการในการปรับครม.ก็จะมองเห็นว่าจะต้องมีอย่างน้อย 3 ปัญหากลายเป็นประเด็น
1 ตำแหน่งของหัวหน้าพรรค
1 ตำแหน่งของเลขาธิการ และ 1 ตำแหน่งของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ไม่ว่าจะได้รับแต่งตั้งให้อยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม
รากฐานของปัญหามาจากการเปรียบเทียบ
ตำแหน่งของหัวหน้าพรรคที่เป็น “รองนายกรัฐมนตรี” จะต้องมีการเปรียบเทียบกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ทำไมพรรคการเมืองอื่นจึงมี “ควบ”
ตำแหน่งของเลขาธิการพรรคจะต้องมีการเปรียบเทียบกับเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยที่ได้คุมคมนาคม เปรียบเทียบกับเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้คุมเกษตรและสหกรณ์
ทำไมของพรรคพลังประชารัฐจึงเป็นเพียง “ประจำสำนักนายกฯ”
ยิ่งตำแหน่งที่มอบให้กับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ยิ่งมากด้วยความละเอียดอ่อนและอ่อนไหวยิ่งในทางการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ
เพราะ “หน้าใหม่” ยิ่งในยุทธจักรการเมือง
ทั้งๆ ที่ไม่มี ส.ส.อยู่ในมือเหตุใดจึงได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งเป็น “รัฐมนตรี” และมีศักดิ์ศรีระนาบเดียวกันแม้กระทั่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
หรือเป็นเพราะได้รับความไว้วางใจจาก “หัวหน้าพรรค”
อย่าว่าแต่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะเฝ้ามองอย่างแคลงคลางกังขา แม้กระทั่งบรรดา ส.ส.หญิงคนอื่นๆ ไม่ว่ากลุ่มฟรีแลนซ์ ไม่ว่ากลุ่มดาวฤกษ์
ล้วน “เหล่” มองด้วยความไม่เข้าใจ
ในเมื่อกระบวนการปรับ ครม.ได้ทิ้งมูลเชื้อแห่งความหวาดระแวงให้เกิดขึ้น ดำรงอยู่และดำเนินไปเช่นนี้แล้วจึงไม่ยากที่จะก่อผลสะเทือน
เพียงไม้ขีดก้านเดียวก็กลายเป็นเรื่อง
ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคจะออกมาปรามเพื่อปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงใด แต่ก็สยบได้ชั่วคราว
เนื่องจากความหงุดหงิดไม่พอใจยังมีอยู่
ความหงุดหงิด “ภายใน” พรรคพลังประชารัฐนั่นแหละจะกลายเป็นมูลเชื้ออย่างดีก่อให้เกิดสถานการณ์
ประหลาดๆ ขึ้น
สร้างความหงุดหงิดให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
