ไม่ว่าจะมองจากฝ่ายที่ชมชอบกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมองจากฝ่ายที่ “ไม่” ชมชอบกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ล้วนมีจุดร่วมตรงกันที่ “รัฐธรรมนูญ”
ความแปรเปลี่ยนอย่างเหลือเชื่อก็คือ แม้กระทั่งฝ่ายที่ชมชอบกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีความเห็นว่าจำเป็นต้องปรับแก้ “รัฐธรรมนูญ”
ไม่สามารถยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ต้องแก้ได้อีกแล้ว
เพียงแต่จุดต่างอย่างมีนัยสำคัญก็คือ จะแก้อย่างไร จะแก้ในลักษณะปะผุ หรือจะแก้ในลักษณะเขียนขึ้นใหม่
ตรงนี้แหละคือ ปัญหา
น่ายินดีที่ปัญหานี้เท่ากับทุกฝ่ายได้ก้าวพ้นไปจากความเชื่อเดิมที่ว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มีความสมบูรณ์พร้อมไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว
การแสวงหา “จุดร่วม” ในการจัดการกับ “รัฐธรรมนูญ” จึงสำคัญ
หากนับจากข้อเรียกร้องอันเสนอขึ้นมาอย่างเป็นระบบจาก “เยาวชนปลดแอก” ในการชุมนุมบนถนนราชดำเนิน เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม
ก็ไม่แน่ว่าการขานรับจะทันกับ “สถานการณ์” หรือไม่
เพราะในส่วนของรัฐบาล ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้จะโอนอ่อนผ่อนตามว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
แต่ก็ยังไม่มีความแจ่มชัด
ไม่เพียงแต่ไม่แจ่มชัดว่าจะเห็นชอบในประเด็นและเนื้อหาอย่างไร หากยังไม่แจ่มชัดว่าจะใช้กระบวนการอย่างไรในการบริหารจัดการ
ตรงนี้แหละจะกลายเป็น “ปัญหา”
ในเมื่อ “เยาวชนปลดแอก” ได้เร่งเครื่องของตนอย่างเร่งรุด โดยส่งสัญญาณผ่านการชุมนุมในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม
สัญญาณนี้เท่ากับเป็น “คำขาด”
ต้องยอมรับว่านับแต่การเสนอข้อเรียกร้องในวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคมเป็นต้นมา แม้จะมีความโอนอ่อนจากด้านของรัฐบาลในเรื่องของ “รัฐธรรมนูญ”
แต่ในประเด็น “หยุดคุกคามประชาชน” กลับสวนทางอย่างสิ้นเชิง
ไม่เพียงแต่ได้เกิดกระบวนการประชิดตัวนักเรียนที่เป็นแกนนำ หากแต่รุนแรงถึงขั้นมี “การอุ้ม” ไปเก็บตัวเพื่อหยุดยั้งการเคลื่อนไหว
ยิ่งกว่านั้นยังมีการจับกุม นายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก
เด่นชัดว่ากระบวนการ “คุกคามประชาชน” แต่ละกระบวนการเป้าหมายก็เพื่อป้องปราม เพื่อสกัดขัดขวางมิให้มีการเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก
เหมือนกับจะเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม
แต่ในอีกด้านก็เท่ากับว่าเสียงขานรับของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิได้จริงใจ มิได้ต้องการโอนอ่อนผ่อนปรนอย่างแท้จริง
ผลก็เห็นอย่างเด่นชัดในการชุมนุม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน”
มีความเป็นไปได้ว่า รัฐบาลจะต้องเปิดปฏิบัติการอย่างเฉียบขาดเพื่อมิให้มีการชุมนุมใหญ่ในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคมอย่างแน่นอน
เพราะเห็นมาแล้วที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าเป็นอย่างไร
คำถามอยู่ที่ว่ามาตรการสกัดขัดขวางจะสวนทางกับข้อเรียกร้อง “หยุดคุกคามประชาชน” หรือไม่
และจะสามารถหยุดลงได้หรือไม่ในทางเป็นจริง
ชวนให้คิดถึงพังเพย “รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ” เป็นอย่างยิ่ง