รายงาน : จุดตัด เส้นแบ่ง รัฐสภา 24 กันยายน จุดหัก การเมือง

การประชุมรัฐสภาในวันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน กำลังจะเป็นการประชุมรัฐสภาอันเป็น “จุดตัด” และ
“เส้นแบ่ง” สำคัญในทางการเมือง

เพราะวาระสำคัญคือ “รัฐธรรมนูญ”

ความสำคัญของเรื่องนี้มิได้อยู่ที่ว่าในที่ประชุมรัฐสภาจะเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบต่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเท่านั้น

หากอยู่ที่ว่าจะแก้ “อย่างไร”

Advertisement

สภาพการณ์ที่ต้องยอมรับร่วมกันก็คือ ด้านหลักของรัฐบาลอันแสดงผ่านพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย และส่วนใหญ่ของ 250 ส.ว.

คือ ไม่ต้องการแก้ไข

เพียงแต่ถูกกดดันอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจากการเคลื่อนไหวของ “เยาวชนปลดแอก” นับแต่เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม เป็นต้นมา จึงจำเป็นต้องออกท่าออกทาง

Advertisement

แต่เป็นการออกท่าออกทางเพื่อรักษา “อำนาจ” ของตน

ความต้องการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มิได้เป็นความต้องการที่เพิ่งเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวอย่างมีกัมมันตะของ “เยาวชนปลดแอก”

ตรงกันข้าม เป็นความรู้สึก “ร่วม” มานานแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา ล้วนเรียกร้องต้องการในเรื่องนี้

เพียงแต่เงียบไปเมื่อกลายเป็น “ส่วนหนึ่ง” ของรัฐบาล

เพียงแต่เงียบไปเพราะติดความเคยชินในทางการเมืองที่ต้องการมีตำแหน่ง ต้องการมีผลประโยชน์และมองข้ามความรู้สึกเดิมของตน

ไม่ว่าในตอน “หาเสียง” จะเคยพูดอย่างไรก็ตาม

สภาพความเป็นจริงที่รัฐบาลมีการขยับในเรื่อง “รัฐธรรมนูญ” มาจากแรงกดดันของเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา จึงเป็นภาวะกระอักกระอ่วนใจ

และจะมี “คำตอบ” ได้ในที่ประชุมรัฐสภา 24 กันยายน

การประชุมรัฐสภาในวันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน จึงกลายเป็นการประชุมที่มีความร้อนแรงเป็นอย่างสูงในทางการเมือง

นี่คือจุด “ชี้ขาด” สำคัญ

ไม่เพียงแต่เป็นจุดชี้ขาดว่ารัฐบาลสืบทอดอำนาจ คสช.อันมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จะเลือกอย่างไร

ความหมายคือ จะเลือก “สืบทอด” อำนาจแบบไหน

ความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งไปกว่านั้นก็คือ พรรคร่วมรัฐบาลอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรค ชาติไทยพัฒนา จะตัดสินใจเลือกแนวทางอย่างไร

จะล่มหัวจมท้ายไปกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

จะมองเห็นว่าพลังและแรงกดดันอันมาจากเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา ซึ่งก่อรูปตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
เป็นต้นมามีความหมายหรือไม่

นี่คือทุกสายตาของ “สังคม” ที่ทอดมองไป

เด่นชัดอย่างยิ่งว่า ไม่ว่าการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าการตัดสินใจของพรรคประชา
ธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา

มีบทบาทและทรงความหมาย

เป็นความหมายแสดงว่าท่านเหล่านี้จะเลือกเส้นทางใดในทางการเมือง เป็นบทบาทที่จะสะท้อนถึงอนาคตในทางการเมือง

ทั้งยังเป็น “อนาคต” อันใกล้อย่างชนิดไม่ต้องรอนาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image