ท่วงท่า อาการ ยกหิน ทุ่มขา ตนเอง พลังประชารัฐ

จากสถานการณ์การประชุมรัฐสภาเมื่อคืนวันที่ 24 กันยายนคำพูดที่จะทรงความหมายเป็นอย่างสูงในทางการเมืองคือคำพูดจากปาก นายชวน หลีกภัย

“ผมเองยังถูกหลอก”

ทาง 1 เป็นการพูดในสถานะแห่ง “ประธานรัฐสภา” ขณะเดียวกัน อีกทาง 1 ที่ไม่ควรมองข้ามย่อมเป็นรากฐานอันเป็นตัวตนของ นายชวน หลีกภัย

นั่นก็คือ การเป็น ส.ส.ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์

Advertisement

ทั้งมิได้เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อย่างธรรมดา หากแต่เป็น ส.ส.ต่อเนื่องมาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2512

ทั้งยังเคยเป็น “หัวหน้าพรรค”

ทั้งยังเป็นหัวหน้าพรรคที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าเมื่อเดือนมิถุนายน 2535 ไม่ว่าเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2539

Advertisement

คำถามก็คือ “ใคร” หลอก นายชวน หลีกภัย

ไม่จำเป็นต้องฟังคำตอบจาก นายชวน หลีกภัย การเคลื่อนไหวในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อคืนวันที่ 24 กันยายน
ก็บ่งบอกความนัยออกมาอย่างเด่นชัด

โดยเฉพาะท่วงท่าอาการของ “วิป”

ไม่เพียงแต่ นายชวน หลีกภัย ในฐานะประธานรัฐสภาเท่านั้น หากแต่วิปจากพรรคภูมิใจไทย วิปจากพรรคประชาธิปัตย์ วิปจากพรรคชาติไทยพัฒนา

ล้วนถูก “หลอก” อย่างถ้วนหน้า ไม่มีเว้น

โดยภาพที่ปรากฏจากการแถลงของ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ตามด้วยข้อเสนอจาก นายไพบูลย์ นิติตะวัน สามารถมองได้ว่าเป็นกระบวนท่าของพรรคพลังประชารัฐ

แต่กลยุทธ์นี้ร่วมมือกับ 250 ส.ว.

ความหมายอันออกมาจากข้อเสนอและการลงมติให้จัดตั้ง “กรรมาธิการ” จึงเท่ากับเป็นการสามัคคีกันระหว่าง 250 ส.ว.กับพรรคพลังประชารัฐ

ครานี้ทุกคนก็ถึง “บางอ้อ” ว่าใครคือ “ตัวการ”

จะเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน และสมบูรณ์จำเป็นต้องเข้าใจถึงรากฐานและความเป็นจริงในทางการเมือง 2 องค์ประกอบ

1 ใครตั้ง 250 ส.ว. 1 ใครคุมพรรคพลังประชารัฐ

ไม่จำเป็นต้องเป็น นายชวน หลีกภัย ก็ตอบได้ว่า 250 ส.ว.มาจากลงนามแต่งตั้งโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช.

250 ส.ว.คือพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ไม่จำเป็นต้องเป็น นายชวน หลีกภัย ก็ตอบได้ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คือคนที่กุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ปฏิบัติการ “หลอก” นายชวน หลีกภัย จึงมาจาก 2 คนนี้

ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ “หลอก” ครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐมิได้กระทำต่อพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาเท่านั้น

หากแต่ยัง “หลอก” แม้กระทั่งตัวเอง

เพราะว่าญัตติที่พรรคพลังประชารัฐร่วมมือกับ 250 ส.ว.เลื่อนออกไปผ่านการตั้ง “คณะกรรมาธิการ” นี้มีของรัฐบาลรวมอยู่ด้วย

ตรงนี้แหละที่เป็น “พฤติการณ์” อันเลวร้าย

เป็นพฤติการณ์ที่ไม่เพียงทรยศต่อพันธมิตรภายในพรรคร่วมรัฐบาล หากแต่ยังเท่ากับเป็นพฤติการณ์ในแบบทรยศต่อหลักการของตนอย่างน่าอัปยศ

ไม่ต่างอะไรจากยกก้อนหินทุ่มใส่ขาของตนเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image