การเคลื่อนไหวในการจะรับหรือไม่รับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสะท้อนอะไร การเคลื่อนไหวในการเดินหน้าจัดตั้ง “คณะกรรมการสมานฉันท์” สะท้อนอะไร
สะท้อนความตื่นตัวของ “รัฐบาล”
สะท้อนความต้องการที่จะขจัดปัญหาและความขัดแย้งอันดำรงอยู่ในสังคมนับแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
อาจเป็นเช่นนั้น
แต่คำถามก็คือ รัฐบาลแสดงความกระตือรือร้นที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มากน้อยเพียงใดนับแต่หลังเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 เป็นต้นมา
ยังข้อเสนอ “คณะกรรมการสมานฉันท์” อีกเล่า
เหตุปัจจัยอะไรทำให้พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องเสนอขึ้นมา เหตุปัจจัยอะไรทำให้ นายชวน หลีกภัย จำเป็นต้องออกตัวแรงในระนาบนี้
คำตอบก็คือ เพราะ “เยาวชนปลดแอก”
ถามว่าก่อนการเคลื่อนไหวของ “เยาวชนปลดแอก” ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเดือนกรกฎาคม 2563
มีการขยับขับเคลื่อนในเรื่อง “รัฐธรรมนูญ” หรือไม่
มี แต่เชื่องช้าเป็นอย่างยิ่ง
แม้จะมีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษา แนวทาง หลักการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมี
นายพีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค เป็นประธาน
แต่มีเป้าหมายจะสรุปในเดือนกันยายน
ต่อเมื่อข้อเสนอ 1 ของ “เยาวชนปลดแอก” อันได้รับการขานรับจากเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษาอย่างคึกคักนั้นหรอก
จึงได้มีการเร่งรัดอย่างรีบด่วน
ต้องยอมรับว่า เพราะการเคลื่อนไหวของ “เยาวชนปลดแอก” ในเดือนกรกฎาคม กระทั่งพัฒนาเป็น
“คณะราษฎร 2563” ในเดือนตุลาคมนั้นหรอก
“รัฐธรรมนูญ” จึงกลายเป็น “วาระ” สำคัญ
ไม่เพียงแต่ประเด็นในเรื่องของ “รัฐธรรมนูญ” มีความหมายในทางสังคมขึ้นมาเท่านั้น หากแม้กระทั่ง
ข้อเสนอว่าด้วย “การปฏิรูปสถาบัน” ก็ทวีความร้อนแรงมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
แรกที่มีการเสนอขึ้นมาในวันที่ 3 สิงหาคม
และได้รับการอธิบาย ขยายความอย่างเป็นระบบ กระทั่งนำไปสู่ข้อเสนอ 10 ข้อจากการชุมนุม ณ ลาน พญานาค ธรรมศาสตร์รังสิต ในวันที่ 10 สิงหาคม
ประเด็นนี้ถูกมองว่า “เลยธง”
มีความคาดหมายจากบรรดา “เกจิ” ทางการเมืองว่า การเคลื่อนไหวของ “เยาวชนปลดแอก” จะถูกต่อต้าน คัดค้านและมีผู้เข้าร่วมน้อยลง
แต่การชุมนุมของ “เยาวชนปลดแอก” ในวันที่ 16 สิงหาคม กลับเหนือความคาดหมาย
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าการชุมนุม ณ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 กันยายน ไม่ว่าการชุมนุมของ
“คณะราษฎร 2563” ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันที่ 14 ตุลาคม
ล้วนเป็นการชุมนุมในระดับ “บิ๊กเบิ้ม”
วาระทางสังคมในเดือนพฤศจิกายน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออก ต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และต้องมีการปฏิรูปสถาบัน
ถามว่าเป็น “วาระ” อันมาจาก “ใคร”
แม้กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็รู้ว่ากำหนดโดยปัจจัยอะไร แม้กระทั่ง นายชวน หลีกภัย ก็จำเป็นต้องขับเคลื่อนในเรื่อง “สมานฉันท์” ก่อนจะสายจนกลายเป็นวิกฤต
“เยาวชน” ต่างหากคือผู้กำหนด“วาระ”