รายงาน : สัญญะ การเมือง เนื่องใน 14 พฤศจิกายน จากม็อบ เด็กเด็ก

เหตุใด ม็อบ FEST จึงเลือกวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน เหตุใด การเคลื่อนไหว “น้ำจิ้ม” ของนักเรียนเลวจึงเลือกวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน

นี่ย่อมเป็น “สัญญาณ” ทาง “การเมือง”

เหมือนกับที่ “คณะราษฎร 2563” ประกาศเคลื่อนขบวนใหญ่ในวันที่ 14 ตุลาคม จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปยังทำเนียบรัฐบาล

นี่ย่อมเป็น “สัญญะ” อันนำไปสู่ “สัญญาณ”

Advertisement

ใครที่เคยคิดและประเมินว่า เยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา ห่างเหินจาก “ประวัติศาสตร์” ก็ต้องคิดใหม่
ทำใหม่ได้แล้ว

เพียงเพราะ “การตีความ” ประวัติศาสตร์ของพวกเขา “ต่าง” ออกไป

ก็บอกแล้วว่าสถานการณ์นับแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา เป็นสถานการณ์การต่อสู้ในทาง “ความคิด” ซึ่งกำลังเข้าสู่พื้นที่ในทาง “การเมือง”

Advertisement

เป็นการเมืองในยุคแห่ง “ดิจิทัล”

มีความจำเป็นต้องย้อนกลับไปยังสถานการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2514 ในยุคแห่งรัฐบาลของ จอมพลถนอม กิตติขจร

เรียกกันว่าเป็นรัฐประหาร “ตนเอง”

เนื่องจาก จอมพลถนอม กิตติขจร ที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยึดอำนาจจาก จอมพลถนอม กิตติขจร ที่เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

เป็นเหตุการณ์เหมือนรัฐประหารเดือนพฤศจิกายน 2494

เป็นเหตุการณ์เหมือนรัฐประหารเดือนตุลาคม 2501 ที่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจโดยการยินยอมพร้อมใจของ พล.อ.ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี

เข้าใจหรือยังว่าทำไมต้อง 14 พฤศจิกายน

ปมเงื่อนที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ แม้ จอมพลถนอม กิตติขจร จะทำรัฐประหารในเดือนพฤศจิกายน 2514 แต่เมื่อ
ถึงเดือนตุลาคม 2516 ก็ต้องจร

นี่ย่อมเป็น “สัญญะ” นี่ย่อมเป็น “สัญญาณ”

อย่าลืมเป็นอันขาดว่าในห้วงระหว่างเดือนตุลาคม กับ เดือนพฤศจิกายน 2563 มีเสียงอะไร
ที่ดังกึกก้องในหมู่ผู้ที่แวดล้อมอยู่กับกลไกแห่งอำนาจ

นั่นคือ เสียงเพรียกหา “รัฐประหาร”

เริ่มจากเสียงของอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต้องการให้ “รัฐประหาร” แล้ว “ถวายคืน
พระราชอำนาจ”

เพื่อนำไปสู่การเกิดขึ้นของ “รัฐบาลพระราชทาน”

ตามมาด้วยเสียงร่ำไห้ของ “คนเสื้อเหลือง” ที่ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา
และป่าวร้องไปยัง

1 นายกรัฐมนตรี 1 ผบ.ทบ.

ให้มีการประกาศ “กฎอัยการศึก” จากนั้น ใช้อำนาจพิเศษเพื่อกระทำการ “ยึดอำนาจ” เพื่อนำไปสู่การดำเนินมาตรการ “ชัตดาวน์” ประเทศ

เท่ากับ เมื่อเอย ก็จะตามมาด้วย เมื่อนั้น

ความเด่นชัดอย่างหนึ่งของเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา นับแต่เริ่มเคลื่อนไหวในเดือนกรกฎาคมกระทั่ง
มาถึงเดือนพฤศจิกายน ก็คือ

ยืนหยัดให้ “การเมือง” แก้ด้วย “การเมือง”

แม้จะเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก แต่ก็ต้องเป็นไปตามระบบ แม้จะเรียกร้องหา “รัฐธรรมนูญ” ใหม่ แต่ก็ต้องเป็นไปตามระบบ

1 คัดค้านรัฐประหาร 1 ไม่เห็นด้วยกับ “รัฐบาลแห่งชาติ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image