รายงาน : กระแส ก้าวหน้า สนาม เลือกตั้ง‘ท้องถิ่น’ คึกคัก และเข้มข้น

ทั้งๆ ที่พรรคอนาคตใหม่ก็ถูกยุบไปตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ทั้งๆ ที่กรรมการบริหารพรรคก็ถูกตัดสิทธิทางการเมืองกันถ้วนหน้า

แล้วทำไมเสียงด่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงยังมีอยู่

ยิ่งเมื่อ “เยาวชนปลดแอก” ปรากฏตัว ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในเดือนกรกฎาคม ยิ่งการเคลื่อนไหวยกระดับและพัฒนาเป็น “คณะราษฎร 2563” ในเดือนตุลาคม

เสียงก่นด่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยิ่งดังอึงคะนึง

Advertisement

พลันที่ “คณะก้าวหน้า” อันมี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เริ่มบาทก้าวเข้าไปยังการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นโดยกำหนดเป้าหมาย 42 จังหวัด

ครานี้กระแส “ต้าน” ยิ่งปรากฏเป็น “กระบวนการ”

ไม่เพียงแต่ยกป้ายในแบบประปรายที่ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ หากที่นครศรีธรรมราช ถึงกับระดมคนมาจากกระบี่เติมกำลังเต็มพิกัด

Advertisement

เท่ากับถือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น “ฝ.ต.ข.” อยู่

ต่อการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ไม่ว่านายก ไม่ว่าสมาชิก อบจ.ที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม สะท้อนอุณหภูมิแห่งการประเมิน “คณะก้าวหน้า” ได้เป็นอย่างดี

ทุกอย่างเหมือนการปรากฏของ “อนาคตใหม่” ในการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562

ในเบื้องต้น พรรคการเมืองเก่า ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าพรรคชาติไทยพัฒนา
ให้ค่าพรรคอนาคตใหม่ต่ำมาก

เป็นไปได้อย่างไร ไม่มี “หัวคะแนน” ไม่ใช้เงิน “ซื้อเสียง”

แต่เมื่อผ่านจากเดือนธันวาคม 2561 เข้าสู่เดือนมกราคม 2562 กระแส “ฟ้ารักพ่อ” ทะยานทะลุเพดานทางการเมือง จึงเริ่มเกิดความตระหนก

พอถึงเดือนมีนาคมก็โป๊ะเชะ

จำนวน 6.3 ล้านคะแนนของพรรคอนาคตใหม่สร้างความตื่นตะลึงเพราะแพ้เฉพาะพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ แต่เอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา

ยิ่งเมื่อเข้าสู่ “รัฐสภา” ยิ่งสร้างความโดดเด่น

อย่าได้แปลกใจหากยุทธศาสตร์ในการสกัด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ วางเป้าหมายไปไกลถึงระดับจะต้องยุบพรรคอนาคตใหม่ให้จงได้จึงเกิดขึ้น

ใช้กลไก “รัฐธรรมนูญ” ลดจำนวน ส.ส.

ใช้กลไก “รัฐธรรมนูญ” ให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้ารัฐสภาได้เพียงไม่กี่วินาที จากนั้นก็ผลักออกไปอยู่ข้างนอก

ใช้กลไก “รัฐธรรมนูญ” เล่นงานอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งสามารถยุบพรรคอนาคตใหม่ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 แล้วใช้กลไก “รัฐธรรมนูญ” สร้างปรากฏการณ์ “งูเห่า” อย่างคึกคัก

หวังจะสยบ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้หมอบราบคาบแก้ว

แต่แล้วพรรคอนาคตใหม่ส่วนหนึ่งก็อวตารมาเป็น “พรรคก้าวไกล” และอีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคก็อวตารมาเป็น “คณะก้าวหน้า”

ฆ่าไม่ตาย ทำลายไม่หมด

ยิ่งกระแสของ “คณะก้าวหน้า” สร้างความคึกคัก เป้าหมายที่จะกำจัดและสกัดขัดขวางในการเลือกตั้งวันที่ 20 ธันวาคม ยิ่งก่อรูปขึ้นอย่างเป็นระบบ

เป็นกลยุทธ์เดียวกับที่เคยกระทำกับ “อนาคตใหม่”

ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ใดที่กระแสและความนิยมของผู้สมัคร “คณะก้าวหน้า” ทะยานขึ้นสูง ขบวนการต่อต้านทุกกรรมวิธีก็ขุดค้นขึ้นมาใช้

ผลก็คือ สถานการณ์วันที่ 20 ธันวาคม แหลมคมและสำคัญ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image