พลันที่มีกรณี “จ่าคลั่ง” แห่งกองทัพภาคที่ 2 กราดยิงประชาชนในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2563
ผบ.ทบ.ก็ประกาศ “ปฏิรูป” กองทัพ
ให้คำมั่นต่อ “สาธารณะ” ว่า ภายใน 6 เดือนจะจัดการให้เรียบร้อย ไม่ว่าเรื่องนายทหารเกษียณราชการยังอาศัยอยู่ในบ้านของกองทัพ
เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่มีอยู่ในทรัพย์สินของทางราชการ
จึงไม่แปลกที่ในวันที่ 18 มกราคม 2564 นักข่าวที่เกาะติดอยู่กับกระบวนการ “ปฏิรูป” กองทัพจะตั้งคำถามต่อบรรดา “โฆษก”
และก็ได้รับคำตอบว่า “คณะกรรมการ” กำลังดำเนินการอยู่
คำตอบจากเหล่า “โฆษก” กองทัพบก เช่นนี้อยู่ในบรรยากาศแห่งการจัดตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องบ่อนการพนัน
เป็นการแต่งตั้งจาก “นายกรัฐมนตรี” ที่เคยเป็น “ผบ.ทบ.”
ถามว่าเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาปัญหา “บ่อน” การพนัน โดยมีอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน
เหตุใด “สังคม” จึงมิได้ให้ความสนใจ
มิใช่เพราะว่า ไม่เชื่อมั่นในคุณธรรม และความดีของอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรมที่ได้รับมอบหมาย หากเพราะอ่านออกแทงทะลุในกระบวนการ
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นมาอย่างไร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับราชการตั้งแต่สำเร็จจากโรงเรียนนายร้อย จปร. รับราชการกระทั่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.ทบ.
จากนั้นจึงก่อ “รัฐประหาร” แล้วเข้าสู่ “การเมือง”
กระบวนการแต่งตั้ง “คณะกรรมการ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็อีหรอบเดียวกับกระบวนการแต่งตั้ง “คณะกรรมการ” ของ ผบ.ทบ.เมื่อเดือนมกราคม 2563
เหมือนกับจะ “แก้ไข” แต่ไม่มีการแก้ไข แต่อย่างใด
กล่าวสำหรับกรณีการปฏิรูปกองทัพไม่จำเป็นต้องให้บรรดา ผบ.ทบ.ทั้งหลายมาตอบ เพราะ 1 ปีที่ผ่านมา สังคมได้ถกแถลง แลกเปลี่ยน “ข้อมูล” กันอย่างคึกคัก
ไม่ว่าในเรื่อง “สนามมวย” ไม่ว่าในเรื่อง “สนามม้า”
ไม่ว่าการโยกงบประมาณให้ “หน่วยงาน” ของกองทัพไปขุดลอกคูคลองอ้างว่า เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ไม่ว่าการโยกงบประมาณกระทรวงพลังงานให้ กอ.รมน.ติดตั้ง “โซลาร์เซลล์”
อันต่างอย่างยิ่งกับเงินบริจาคของ #พิมรี่พาย
เมื่ออดีต ผบ.ทบ.ทำรัฐประหารแล้ว เข้าดำรงตำแหน่งเป็น “นายกรัฐมนตรี” ก็จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาปัญหา “บ่อนการพนัน”
ทั้งๆ ที่แม้กระทั่ง “กูเกิล แมป” ก็ตอบได้ว่า “บ่อน” อยู่ที่ไหน
จึงเด่นชัดยิ่งว่า คณะกรรมการปฏิรูปกองทัพก็เพื่อ “เตะถ่วง” จึงเด่นชัดยิ่งว่า คณะกรรมการศึกษาเรื่องบ่อนการพนันก็เพื่อ “เตะถ่วง”
เพราะ “ต่อให้ร้อยนายกรัฐมนตรี” ก็แก้ไม่ได้
ถามว่าเหตุใดกรณีที่ “จ่าคลั่ง” กราดยิงชาวบ้าน จึงลงเอยที่ “คณะกรรมการ” ถามว่าเหตุใดกรณีที่ “บ่อน” กลายเป็นแหล่งแพร่ไวรัส จึงลงเอยที่ “คณะกรรมการ”
คำตอบเพราะว่า ผบ.ทบ.เป็นข้าราชการ
เมื่อตลอดชีวิตดำรงอยู่ในแบบของข้าราชการ ภายใต้โครงสร้างแห่ง “รัฐราชการรวมศูนย์” ก็ย่อมจะเจนจบในกลยุทธ์ในแบบของข้าราชการ
ย่อมอาศัย “กลยุทธ์” นี้ในการเตะถ่วง ซื้อเวลา
