บทนำวันศุกร์ที่22มกราคม2563 : แก้ฝุ่น PM 2.5

ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) หรือฝุ่น PM 2.5 กลับมาคุกคามสุขภาพประชาชนอีกครั้ง เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เตือนว่า สภาพอากาศระหว่างวันที่ 20-25 มกราคมนี้ จะมีลมอ่อน ทำให้เกิดการสะสมของ ฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะในเขต กทม.และปริมณฑล ซึ่งศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ได้ประสานตำรวจจราจร ให้อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในจุดที่คาดว่าจะสะสมฝุ่นละออง ลดความคับคั่งของการจราจร กวดขันตรวจควันดำรถส่วนบุคคล รถโดยสารสาธารณะ การก่อสร้างที่ทำให้เกิดฝุ่น เกษตรกรทั่วกรุงเทพฯ ลดการเผา ขอความร่วมมือกระทรวงต่างๆ ให้ทำงานจากที่บ้าน เพื่อลดความติดขัดของการจราจร

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า สภาพอากาศในช่วงนี้จะต่อเนื่องจากปลายปีที่มีอากาศหนาวสลับร้อน ซึ่งในพื้นที่ กทม.ที่พบปัญหาจะอยู่บริเวณช่วงรอยต่อสี่แยก หรือสถานที่ที่จราจรคับคั่ง ซึ่งบางจุด ลมพัดมาจากตอนเหนือที่อาจมาจากการเผา และขอความร่วมมือเกษตรกรและทางจังหวัดขอให้งดเผาในพื้นที่ รวมไปถึงขอความร่วมมือประชาชนตรวจสภาพรถยนต์ เพื่อลดควันดำ ส่วนรถ ขสมก. ได้ขอให้กระทรวงคมนาคมและ ขสมก.ไปกวดขันและอาจจะลงไปถึงในพื้นที่ ทั้งนี้ ผลการตรวจวัดฝุ่น PM 2.5 ใน กทม. เมื่อเช้าวันที่ 20 ม.ค. เวลา 07.00 น. พบว่า ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐานจำนวน 53 พื้นที่ คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

สภาพอากาศเป็นปัจจัยให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กก็จริง แต่ยังมีสาเหตุจากกิจกรรมต่างๆ ของเมืองใหญ่ โดยเฉพาะจากการจราจร เครื่องยนต์ดีเซล การก่อสร้าง และโรงงานอุตสาหกรรม เป็นเรื่องที่จะต้องมีการวางแผนระยะยาว และกำหนดมาตรการปฏิบัติอย่างจริงจัง ป้องกันปัญหานี้ให้ได้ เพื่อดูแลสุขภาพประชาชน ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพอนามัย มีการกล่าวถึงการออกกฎหมายอากาศสะอาด เหมือนที่หลายประเทศใช้แก้ปัญหาได้ผล ประเทศไทยจะต้องเริ่มหาทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดย กทม.และฝ่ายนิติบัญญัติ น่าจะต้องหาแนวทางเร่งผลักดันโดยเร็ว มิใช่ปล่อยทิ้งไว้แล้วมาแก้ปัญหาเมื่อถึงฤดูหนาว และหน้าแล้งทุกปีดังที่ผ่านๆ มา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image